หนุนเกษตรกรสตรีให้พร้อมรับมือและปรับตัวกับสภาพภูมิอากาศ

ภาพหมู่ของผู้เข้าร่วมการฝึกอบรม ได้แก่ เกษตรกร เจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าที่จากบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด (PepsiCo) และเจ้าหน้าที่จากองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ)
- การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อทุกคนโดยเฉพาะคนชายขอบของสังคม
- โครงการการจัดการห่วงโซ่อุปทานข้าวและมันฝรั่งฯ (RePSC) จึงจัดอบรมสตรีเกษตรอาสาเกี่ยวกับเกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อลดก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนการรณรงค์ถึงบทบาทสตรีในการขับเคลื่อนสังคม ชุมชน และภาคการเกษตร
- การฝึกอบรมนี้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถและยกระดับบทบาทของสตรีในภาคการเกษตรของไทยเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยเกษตรกรรมที่ยั่งยืน
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อแต่ละคนไม่เท่ากัน โดยผู้ที่อยู่ในกลุ่มชายขอบและไม่ได้รับความเท่าเทียมกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านเพศสภาพ ชาติพันธุ์ และปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมอื่น ๆ จะได้รับผลกระทบรุนแรงกว่ากลุ่มอื่น ด้วยเหตุนี้ โครงการการจัดการห่วงโซ่อุปทานข้าวและมันฝรั่งเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศด้วยวิธีการปลูกข้าว มันฝรั่ง และข้าวโพดหมุนเวียนอย่างยั่งยืน (RePSC) จึงจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “สตรีเกษตรอาสา ลดก๊าซเรือนกระจก” เป็นเวลาสองวันที่อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ทำงานของโครงการฯ โดยมีผู้นำเกษตรกรสตรีที่เป็นสมาชิกโครงการฯ มาเข้าร่วมมากถึง 50 คน เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการเกษตรที่ยั่งยืน และเปิดพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับความสำคัญของสตรีในการเตรียมความพร้อมและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ พร้อมทั้งเป็นตัวแทนเกษตรกรสตรีเพื่ออาสานำองค์ความรู้จากการอบรมไปปฏิบัติและขยายผลภายในชุมชนและนอกพื้นที่

ว่าที่ร้อยตรีดุจเดี่ยว วงศ์ภักดิ์ หัวหน้าสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย กล่าวเปิดงาน
“การจัดอบรมในครั้งนี้ให้ความรู้กับเกษตรกรสตรีอาสาเรื่องการลดก๊าซเรือนกระจกและแนวทางในการบรรเทาผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ไม่ว่าจะเป็น ฝนแล้ง น้ำท่วม และการระบาดของโรคและศัตรูพืช การที่พวกเราเห็นความสำคัญเรื่องการลดโลกร้อนและลงมือปฏิบัติร่วมกันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเรา ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ” ว่าที่ร้อยตรีดุจเดี่ยว วงศ์ภักดิ์ หัวหน้าสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงรายกล่าว พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการฝึกอบรมและประโยชน์จากการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเกษตรกรสตรีในภาคการเกษตรของประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมบทบาทของเกษตรกรสตรีในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศผ่านแนวทางปฏิบัติด้านการเกษตรที่ยั่งยืน
ตลอดสองวันของการอบรมเชิงปฏิบัติการ เกษตรกรสตรีอาสาได้เรียนรู้ทักษะที่สำคัญสำหรับการลดก๊าซเรือนกระจก เช่น การทำบัญชีรายรับรายจ่ายสำหรับธุรกิจการเกษตร การใช้สารเคมีอย่างรอบคอบ การควบคุมศัตรูพืชโดยชีววิธี โดยวิทยากรที่มาให้ความรู้ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนโดยอาจารย์จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่จากเกษตรอำเภอเวียงป่าเป้า เจ้าหน้าที่จากเทศบาลเวียงกาหลง เจ้าหน้าที่จากบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด (PepsiCo) และเจ้าหน้าที่โครงการฯ ขององค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ)
เกษตรกรสตรีอาสาที่เข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้ยังได้ลองใช้อุปกรณ์แว่นสวมศีรษะแบบระบบเสมือนจริง หรือ วีอาร์ (VR: Virtual Reality) ในการจำลองสวมชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment: PPE) เพื่อป้องกันสารเคมี
การสร้างองค์ความรู้และเพิ่มขีดความสามารถของเกษตรกรสตรีอาสาสอดคล้องกับเป้าหมายของโครงการฯ ในการเสริมสร้างความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และลำพูน ผ่านการจัดการพื้นที่เกษตรกรรมอย่างยั่งยืนตามแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรแบบฟื้นฟู ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในกลุ่มเกษตรกรทางด้านแนวทางและเทคนิคต่าง ๆ เพื่อบรรเทาปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

กิจกรรมกลุ่มเกี่ยวกับปฏิทินเกษตร และการวางแผนการปลูกพืชรายปี

กิจกรรมกลุ่มในหัวข้อ “แปรรูปอย่างไร ถูกใจตลาด” ภายในกิจกรรมนี้ผู้เข้าร่วมได้ฝึกแปรรูปมันฝรั่งเพื่อสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
เป็นเวลากว่าสามปีที่คุณวิสา หล้าคำภา เกษตรกรจากตำบลเวียงกาหลง ได้เริ่มการทำเกษตรกรแบบผสมผสานภายในสวนมันฝรั่งและนาข้าวญี่ปุ่นของตัวเอง เนื่องจากการทำเกษตรที่ใช้เคมีเพียงอย่างเดียวก่อให้เกิดปัญหาดินกรดและต้นทุนการผลิตที่สูง โดยคุณวิสาได้แสดงความคิดเห็นหลังการอบรมว่า “การอบรมในครั้งนี้ทำให้เข้าใจถึงการเกษตรอย่างยั่งยืนมากขึ้น เช่น เรื่องการทำปุ๋ยสั่งตัด การใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา การใช้สารเคมีอย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ดีต่อสุขภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

คุณวิสา หล้าคำภา เกษตรกรจากตำบลเวียงกาหลง แสดงความคิดเห็นภายในงาน
คุณรัชนก กันทา เกษตรกรผู้ปลูกข้าวจากตำบลแม่เจดีย์ อายุ 54 ปี ให้ความคิดเห็นว่า “แนวปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีเริ่มต้นจากการวางแผนทางการเงิน เราสามารถนำทักษะเหล่านี้มาพัฒนากลุ่มออมทรัพย์และวิสาหกิจแปรรูปผลิตภัณฑ์ในชุมชนของเราได้ เพื่อเสริมสร้างทักษะสตรีและส่งเสริมการพัฒนาชุมชนในระยะยาว” นอกจากนี้ คุณรัชนกยังเน้นย้ำว่าการอบรมนี้เป็นประโยชน์ต่อสตรีและชุมชนอย่างมาก เพราะเป็นการเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรสตรีแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับความสำคัญของสตรีในปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
หลังจากการอบรมในครั้งนี้ โครงการฯ จะยังคงให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำเกษตรแบบยั่งยืนและติดตามผลการปฏิบัติของเกษตรกรที่เข้าร่วมการอบรมอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งวางแผนที่จะพัฒนาสตรีเกษตรอาสาในพื้นที่ของโครงการฯ ในจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย และจังหวัดลำพูน เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่สามารถเผยแพร่ความรู้และมีทักษะในการรับมือกับภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในชุมชนของตนเองต่อไปในระยะยาว

คุณรัชนก กันทา เกษตรกรจากตำบลเวียงกาหลง ได้แสดงความคิดเห็นภายในงาน
เกอมันน์ มูลเลอร์ (German Müller)
ผู้อำนวยการโครงการ RePSC
อีเมล: german.mueller(at)giz.de