นายเฉลียว น้อยแสง วัย 59 ยืนยันว่าการทดลองปลูกข้าวเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกคือสิ่งที่ทำให้แปลงนาข้าวของเขาสามารถลดต้นทุนในการปลูกข้าวได้
“ผมใช้น้ำมันน้อยลงในการปั๊มน้ำ การลงเมล็ดข้าว การใช้ปุ๋ยเคมีและการใช้น้ำ ทำให้ข้าวได้ผลผลิตที่ดีกว่าเดิมและข้าวก็มีคุณภาพดีมากกว่าแต่ก่อนด้วย” นายเฉลียวกล่าว
เทคโนโลยีทดลองนี้ หมายถึงการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง และการใช้เลเซอร์ในการปรับหน้าดิน การปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง คือ การจัดการพื้นที่แปลงข้าวที่สามารถประหยัดน้ำและลดก๊าซเรือนกระจก ขณะเดียวกันเกษตรกรก็ได้ผลผลิตข้าวที่ดี สำหรับการใช้เลเซอร์ในการปรับหน้าดิน คือการใช้เลเซอร์ในการปรับระดับของพื้นที่ โดยการนำดินออกจากจุดที่อยู่สูงของแปลงข้าวไปถมในจุดที่ต่ำจนกระทั่งหน้าดินของแปลงข้าวเรียบเสมอกัน
ศูนย์วิจัยข้าวจังหวัดชัยนาทได้ทดลองเทคโนโลยีที่ว่านี้ร่วมกับกลุ่มเกษตรกรจำนวน 40 คน โดยใช้แปลงนาข้าวของพวกเขาจำนวน 480 ไร่ หรือประมาณ 78.6 เฮกตาร์เป็นพื้นที่ทดลอง ซึ่งศูนย์วิจัยฯได้จัดทดลองแปลงข้าวนี้ให้เป็นการอบรมในรูปแบบ “ชาวนาสู่ชาวนา” เพื่อช่วยต่อยอดความรู้ไปให้กับเกษตรกรคนอื่นๆ ได้ โดยการอบรมนี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดภาวะโลกร้อนจากการทำนา เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือที่เรียกว่าโครงการ Thai Rice NAMA
โครงการ Thai Rice NAMA มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรกว่า 100,000 ครัวเรือนในประเทศไทยให้มีการเปลี่ยนรูปแบบการทำนาข้าวแบบดั้งเดิมมาเป็นการทำนาที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ โครงการนี้จะทำงานร่วมกับเกษตรกรและสมาคมชาวนา เพื่อสนับสนุนการปรับเปลี่ยนและลดการทำนาในรูปแบบเดิม รวมถึงพัฒนางานด้านเกษตรกรรมและสนับสนุนด้านงบประมาณ ซึ่งโครงการได้รับการช่วยเหลือด้านงบประมาณจากกองทุนเพื่อการลดก๊าซเรือนกระจกที่เหมาะสมของประเทศ หรือ NAMA Facility
ในประเทศไทยภาคเกษตรกรรมได้ถูกจัดอยู่ในอันดับสองที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาก รองจากภาคพลังงาน การผลิตข้าวปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงถึงร้อยละ 60 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคเกษตร ส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเทนที่มาจากการผลิตข้าวและสูงเป็นอันดับที่ 4 ของโลก
นางฤดีพร เทพศรี เกษตรกรจากจังหวัดชัยนาทวัย 53 ปี คาดหวังว่าจะใช้เทคโนโลยีรูปแบบใหม่นี้ในการทำนาของเธอ “ฉันได้สังเกตเห็นแปลงนาของเพื่อนบ้านและพบว่าการใช้เทคโนโลยีโดยการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง (AWD) และการใช้เลเซอร์ปรับหน้าดิน (LLL) นั้นสามารถทำให้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ตอนนี้ฉันได้เตรียมแปลงที่นาสำหรับการทำนาในฤดูถัดไปเรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่าฉันจะใช้เทคโนโลยีใหม่นี้ในแปลงนาของฉันเช่นกัน” ฤดีพรกล่าว
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวจากต่างประเทศ ยังได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สำนักงานใหญ่ ที่กรุงเทพฯ เพื่อรับทราบรายละเอียดของโครงการ กลไกด้านการเงินที่จะสามารถเปลี่ยนระบบการทำนาแบบดั้งเดิมให้มีความยั่งยืน และการลดก๊าซเรือนกระจกจากการทำนา
นายมรกต พิธรัตน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ได้เผยถึงโครงการนี้ว่ากลไกในด้านการจัดการเรื่องการเงินหรือกองทุนหมุนเวียนสำหรับเกษตรกรนั้น ได้จัดตั้งเป็นสองระบบ คือ กองทุนหมุนเวียน (Revolving Fund (RF)) สำหรับเกษตรกรในการลงทุนขอรับบริการเทคโนโลยี ซึ่งเกษตรกรไม่ต้องไปกู้เพื่อเป็นหนี้ และอีกระบบคือสินเชื่อสีเขียวดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ให้บริการเพื่อลงทุนซื้อเครื่องจักรและเทคโนโลยีทางการเกษตรเพื่อให้บริการแก่เกษตรกร
กองทุนหมุนเวียนได้รับการสนับสนุนจาก NAMA Facility ส่วนสินเชื่อสีเขียวอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของ ธกส. กองทุนหมุนเวียนนี้ จะช่วยเหลือด้านการเงินแก่กลุ่มเกษตรกรเพื่อจะได้รับการบริการในการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ปรับหน้าดิน ซึ่งพวกเขาจะต้องจ่ายค่าบริการนี้ในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ให้บริการนี้ก็จะได้รับเงินค่าบริการผ่านกองทุนหมุนเวียนในนามของกลุ่มเกษตรกร และผู้ให้บริการก็สามารถเข้าถึงสินเชื่อสีเขียวนี้ในการลงทุนซื้อเทคโนโลยีลดก๊าซเรือนกระจก มรกตกล่าว
นายมรกตยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “รูปแบบทางการเงินของโครงการนี้สามารถนำไปปรับใช้กับพืชชนิดอื่นๆ ในภาคเกษตร ซึ่งจะมีส่วนช่วยนำพาประเทศไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำได้”
ผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่มาเยี่ยมชมโครงการนี้ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์เกษตรกรเกี่ยวกับผลที่ได้จากการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำนา ทัศนคติของเกษตรกรในการปรับเปลี่ยนวิธีการทำนา และกลไกทางการเงินในการปรับเปลี่ยนภาคการทำนาไปสู่ความยั่งยืนและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เรื่องราวนี้จะถูกนำเสนอในรายงานประจำปีครั้งที่ 6 ของกองทุนเพื่อการลดก๊าซเรือนกระจกที่เหมาะสมของประเทศหรือ NAMA Facility ซึ่งจะนำไปเผยแพร่ในการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ครั้งที่ 24 ณ กรุงคาโตวีตเซ ประเทศโปแลนด์ ในวันที่ 2 ถึง 14 ธันวาคม 2561นื้
รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
กองทุนเพื่อการลดก๊าซเรือนกระจกที่เหมาะสมของประเทศ (NAMA Facility)
http://www.nama-facility.org
โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดภาวะโลกร้อนจากการทำนา เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
http://www.nama-facility.org/projects/thai-rice-nama/
เรียนรู้การปลูกข้าวเปียกสลับแห้ง ได้ที่ http://irri.org/resources/publications/brochures/overview-of-awd
เรียนรู้การใช้เลเซอร์ปรับหน้าดิน ได้ที่ http://ghgmitigation.irri.org/technologies/laser-land-leveling