ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาอันเนื่องมาจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในทุกภาคส่วนรวมทั้งภาคส่วนน้ำ ปริมาณน้ำฝนที่เปลี่ยนแปลง อุณหภูมิที่เปลี่ยนไป ส่งผลโดยตรงกับวัฏจักรของน้ำทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ ดังนั้นการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และสภาพภูมิอากาศ จึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยจัดการกับความท้าทายเหล่านี้
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลด้านน้ำและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงร่วมกันบูรณาการการดำเนินงานเข้ากับกลยุทธ์การบริหารจัดการน้ำของประเทศ เพื่อให้ภาคส่วนน้ำสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้มากขึ้น ตลอดจนสามารถสร้างนโยบายด้านการบริหารจัดการน้ำ และแผนระดับลุ่มน้ำที่ยั่งยืน
เพื่อต่อยอดการดำเนินงานดังกล่าว สทนช. และ สผ. จึงได้มีการหารือในประเด็นเรื่อง “การบูรณาการการบริหารทรัพยากรน้ำและการตั้งรับปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ปี พ.ศ 2562 ซึ่งส่งผลให้เกิดข้อตกลงในการพัฒนาข้อเสนอแนะทางนโยบายเพื่อบูรณาการประเด็นด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสู่ภาคส่วนน้ำ และให้เกิดความสอดคล้องกับนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ
การจัดทำข้อเสนอแนะทางนโยบายร่วมกันนี้ สทนช. และสผ. ภายใต้การสนับสนุนของโครงการด้านน้ำ ภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (TGCP-Water) มุ่งเน้นเรื่อง “การเพิ่มภูมิคุ้มกันของภาคส่วนน้ำในประเทศไทย: การบูรณาการประเด็นการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้าสู่นโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความจำเป็นในการบูรณาการประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้าสู่ภาคส่วนน้ำ รวมถึงแนวทางในการบูรณาการ และมาตรการปรับตัวและการปรับตัวโดยอาศัยระบบนิเวศที่สามารถดำเนินการได้ทั้งในระดับนโยบายและระดับลุ่มน้ำ โดยเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียในการบริหารจัดการน้ำได้แสดงความคิดเห็น เพื่อให้ข้อเสนอแนะทางนโยบายฉบับนี้สะท้อนถึงความต้องการ และบริบทของการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทยได้จริง
ทั้งนี้ สทนช. แสดงเจตจำนงที่จะนำข้อเสนอแนะทางนโยบาย ไปเป็นข้อมูลประกอบเพื่อใช้ในการปรับปรุงแผนแม่บทบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปีต่อไป โดยข้อเสนอแนะทางนโยบายจะเข้าสู่การพิจารณาและรับรองจากคณะกรรมการน้ำแห่งชาติต่อไป ภายในปี พ.ศ. 2565 นี้