ประเทศไทยและเยอรมนี ร่วมฉลองความสำเร็จ 60 ปี ความร่วมมือด้านการพัฒนาไทย-เยอรมัน
จากซ้ายไปขวา:
มร. ฮาเก้น เดิร์คเซ่น กงสุลกิตติมศักดิ์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันประจำจังหวัดเชียงใหม่
ดร.เพียร์ เกเบาเออร์ อัครทูตและห้วหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ สถานเอกอัครราชทูตเยอรมัน ประจำประเทศไทย
ฯพณฯ เพเทอร์ พรือเกล เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศไทย
นางสุพัตรา ศรีไมตรีพิทักษ์ อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ
นางจิตเกษม ตัณฑศิริ รองอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ
นายวิชิต ชิตวิมาน เอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ และ
มร. ชเตฟาน เฮลมิง ผู้อำนวยการองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน GIZ ประจำประเทศไทย
เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2560 นายปัญญรักษ์ พูลทรัพย์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานร่วมในพิธีเปิดกิจกรรม TICA Connect ครั้งที่ 2 “60 ปี: หุ้นส่วนความร่วมมือไทย-เยอรมัน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยมีนายเพเทอร์ พรือเกล เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย เป็นประธานร่วมฝ่ายเยอรมนีและกล่าวเปิดงาน
กิจกรรมครั้งนี้ จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง GIZ กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA) และสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปี ความสำเร็จในการดำเนินงานด้านการพัฒนาของโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไทย-เยอรมัน เพื่อถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และการดำเนินงานอันนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งเพื่อขยายเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ของไทยและต่างประเทศ ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ
นายเพเทอร์ พรือเกล เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ความร่วมมือไทย-เยอรมัน ประสบผลสำเร็จในการปฏิบัติงานตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันเราได้ถ่ายทอดการพัฒนาของประเทศไทยให้แก่ประเทศต่างๆ ด้วยการช่วยยกระดับประเทศกำลังพัฒนาไปสู่ประเทศเศรษฐกิจชั้นนำและเป็นฐานที่ตั้งของธุรกิจต่างๆ ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน สาขาหลักด้านการพัฒนาสาขาหนึ่งของเรา ก็คือ การศึกษา เริ่มแรกเกิดขึ้นจากการก่อตั้งโรงเรียนเทคนิคไทย-เยอรมันในพ.ศ.2502 โดยมีการผลิตแรงงานฝีมือ เพื่อรองรับการพัฒนาและการเติบโตของประเทศ ต่อมาโรงเรียนเทคนิคไทย-เยอรมัน พัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) และทุกวันนี้ยังคงเป็นสถาบันชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคอีกด้วย
ขณะที่เรายังคงร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและภาคธุรกิจ ปรับปรุงคุณภาพด้านอาชีวศึกษา เราก็ได้ปรับทักษะความรู้ สู่การพัฒนาเทคนิคใหม่ๆ เช่นกัน ในฐานะที่ประเทศไทยได้เปลี่ยนสถานะจากการเป็นผู้รับสู่การเป็นผู้ให้การช่วยเหลือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ปัจจุบันเราจึงมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้กับความท้าทายระดับโลก อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เรายังมุ่งเน้นการส่งเสริมการขนส่งที่ยั่งยืน การเกษตรที่ดี การพัฒนาเมืองและธุรกิจ ด้วยความตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของความท้าทายดังกล่าว ประเทศไทยได้กลายเป็นศูนย์กลางในการดำเนินงานและทำกิจกรรมต่างๆ ของประเทศเยอรมนี ทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนและทั่วโลก รวมทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ด้านการพัฒนาของประเทศเยอรมนีทั่วทั้งเอเชีย ได้รับการฝึกอบรมที่ศูนย์บริการฝึกอบรมของ GIZ สำนักงานกรุงเทพฯ ด้วย”
นายปัญญรักษ์ พูลทรัพย์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า “ประเทศไทยและเยอรมนี มีความสัมพันธ์อันดีในการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวิชาการในสาขาต่างๆ มากว่า 60 ปี ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือ การน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในประเทศไทย มาใช้ร่วมกับแนวคิดเศรษฐกิจการตลาดเพื่อสังคมของประเทศเยอรมนี โครงการต่างๆ ที่เกิดจากความร่วมมือด้านการพัฒนาของไทย-เยอรมันดังกล่าว ไม่เพียงแต่เอื้อประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการเกิดจากความมุ่งมั่นร่วมมือกันของผู้ร่วมโครงการทั้งจากภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ ประสบการณ์และผลสำเร็จในการดำเนินงานความร่วมมือโครงการดังกล่าวยังสามารถนำไปต่อยอดและพัฒนาเป็นความร่วมมือไตรภาคี ในการช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านของไทย เช่น ลาว กัมพูชา เวียดนามและติมอร์เลสเต ที่มีอยู่ในปัจจุบัน แน่นอนว่าเส้นทางแห่งความร่วมมือนี้จะยังคงดำเนินต่อไป โดยการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมนั้น ต้องเป็นไปอย่างสมดุล เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน และนั่นคือเป้าหมายของเรา”
ภายในงานมีการจัดเวทีเสวนา การถ่ายทอดประสบการณ์จากตัวแทนของโครงการความร่วมมือไทย-เยอรมัน มาร่วมพูดคุยถึงเรื่องราวอดีต ปัจจุบัน และทิศทางความร่วมมือด้านการพัฒนาในอนาคต ที่จะน้อมนำหลัก ปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียงไปพัฒนาประเทศ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs พร้อมทั้งมีการจัดแสดงนิทรรศการผลงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนไทย-เยอรมัน และการออกบูธของหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมการข้าว องค์กร CBM (Christoffel-Blindenmission) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) เป็นต้น
ผลงานจากการจัดงานในครั้งนี้ เช่น ภาพยนตร์สารคดี แผ่นพับ บอร์ดแสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ.2499 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งข้อมูลการจัดแสดงเมืองที่ยั่งยืน ได้ถูกรวบรวมไว้ที่ https://www.thai-german-cooperation.info/th/topic/ คลิกที่นี่เพื่อรับชม
GALLERY
ปริยา วงศาโรจน์
เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์
Email: pariya.wongsarot(at)giz.de