นนทบุรี 9 มีนาคม 2564 – สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) ร่วมกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) และ บริษัท บี. บราวน์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อเริ่มดำเนินโครงการ “เพิ่มการผลิตผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคและส่งเสริมการทำความสะอาดมือ” เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ที่โรงแรมริชมอนด์ สไตลิช คอนเวนชั่น จ.นนทบุรี
ความร่วมมือของหน่วยงานทั้งสามมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาขีดความสามารถในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้แก่กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ในสถานพยาบาล 50 แห่งในพื้นที่เสี่ยงต่อการระบาด และกลุ่มเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ชนบทในประเทศไทย ผ่านการส่งเสริมการทำความสะอาดมือ และการแจกจ่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือที่ได้มาตรฐาน
“การระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่รุนแรงกว่ารอบแรกมาก จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 นั้นเพิ่มสูงกว่าเดิมมาก และในพื้นที่สีแดง เช่น จังหวัดสมุทรสาคร บุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อค้นหาวิธีการเชิงรุกและการรักษา ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงมาก ถ้าหากอุปกรณ์ป้องกันตนเองต่างๆ นั้นมีไม่เพียงพอ ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อต่าง ๆ เช่น เจลล้างมือ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการป้องกันการติดเชื้อในสถานพยาบาลต่างๆ อย่างที่เราได้เห็นแล้วว่า มีความต้องการผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อและทำความสะอาดมือสูงมากกว่าปกติหลายเท่ากว่าการระบาดในรอบแรก ดังนั้นเราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลเยอรมนีและบริษัท บี. บราวน์ (ประเทศไทย) จำกัดจะสนับสนุนเจลล้างมือแอลกอฮอล์ที่มีคุณภาพสูง รวมทั้งชุดป้องกันตนเองหรือชุดพีพีอีให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ สรพ.เองก็ร่วมมือในการส่งเสริมองค์ความรู้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โดยร่วมออกแบบ และสนับสนุนข้อมูลความรู้เรื่องการทำความสะอาดมือที่ถูกต้องและการใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหรือ PPE เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ อีกทั้งส่งเสริมให้บุคลากรทางการแพทย์เข้ารับการอบรมผ่านแอปพลิเคชันที่ทางโครงการพัฒนาขึ้นด้วย” นพ.กิตตินันท์ อนรรฆมณี ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) กล่าว
มร.ยาน แชร์ รองหัวหน้าสำนักงาน และหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ สถานทูตเยอรมัน กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นสร้างผลกระทบให้แก่ทุกคนและทุกประเทศทั่วโลก เราได้เห็นแล้วว่าหลายๆ ประเทศทั่วโลกนั้นต้องการความช่วยเหลือพิเศษ เพื่อที่จะต่อสู้กับการระบาดของเชื้อไวรัสนี้ กระทรวงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี จึงได้สนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเสนอโครงการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 ทางด้านเศรษฐกิจและทางด้านสุขภาพในประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเกิดใหม่ ผ่านโครงการ DeveloPPP.de COVID Response เราตระหนักดีว่าบุคลากรทางการแพทย์เป็นกลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการสัมผัสกับเชื้อโควิด-19 จากผู้ป่วยมากที่สุด และอุปกรณ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อต่าง ๆ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการป้องกันของพวกเขา ดังนั้น GIZ และบริษัท บี. บราวน์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้รับการอนุมัติให้ดำเนินโครงการเพิ่มการผลิตผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคและส่งเสริมการทำความสะอาดมือให้กับบุคคลากรทางการแพทย์ในประเทศไทย นอกจากนี้โครงการฯ ยังได้สนับสนุนกลุ่มเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย ให้เข้าถึงเจลล้างมือแอลกอฮอล์ที่มีคุณภาพ และเข้าถึงข้อมูลความรู้เรื่องการทำความสะอาดมือที่ถูกวิธี และการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 โดยโครงการฯ ได้ใช้งบประมาณในการลงทุนเพื่อผลิตเจลล้างมือแอลกอฮอล์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก จำนวน 123,750 ลิตร เพื่อบริจาคให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงต่อการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19”
คุณสายัณห์ รอย กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี. บราวน์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในขณะที่การระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังมีต่อเนื่องไปทั่วโลก เราตระหนักว่ายังมีแอลกอฮอล์ล้างมือที่ไม่ได้มาตรฐานอยู่ทั่วไป รวมทั้งในประเทศไทยด้วย การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี ในเวลาที่เหมาะสม ด้วยเทคนิคที่ถูกต้องนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การทำความสะอาดมือมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นบริษัท บี. บราวน์จึงมุ่งที่จะสนับสนุนชุมชนและบุคลากรทางการแพทย์ โดยการผลิตผลิตภัณฑ์เจลล้างมือแอลกอฮอล์ SOFTA-GEL ที่มีคุณภาพและผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน EN 14476 ซึ่งเป็นมาตรฐานการทดสอบประสิทธิภาพในการต่อต้านไวรัสชนิดมีเปลือกหุ้ม ซึ่งรวมถึงไวรัสโคโรนา มาตรฐาน EN 1500 ขององค์การอนามัยโลก และมาตรฐาน EN 1276 จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และด้วยการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี บริษัท บี. บราวน์จึงสามารถเพิ่มกำลังการผลิตเจลล้างมือแอลกอฮอล์ เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีผลิตภัณฑ์เพียงพอต่อความต้องการของคนไทย นอกจากนี้ การทำความสะอาดมือที่ถูกวิธียังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสนั้นมีประสิทธิภาพ เราจึงได้แบ่งปันความรู้และความเชี่ยวชาญระดับโลกในด้านการป้องกันการติดเชื้อของเรา โดยการร่วมพัฒนาสื่อการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์สำหรับชุมชนและบุคลากรทางการแพทย์ร่วมกับสรพ. เพื่อส่งเสริมการล้างมือที่ถูกต้อง เพื่อเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่น ตามวิสัยทัศน์ขององค์กร “เพื่อปกป้องและพัฒนาสุขภาพของผู้คนทั่วโลก” เพื่อให้เราผ่านพ้นสถานการณ์การแพร่ระบาดนี้ไปด้วยกัน”
พิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินโครงการ “เพิ่มการผลิตผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคและส่งเสริมการทำความสะอาดมือ” ซึ่งประกอบด้วยแนวทางการดำเนินงาน 3 ส่วนด้วยกัน คือ การลงทุนเพื่อเพิ่มการผลิตเจลล้างมือแอลกอฮอล์ที่ได้มาตรฐาน การพัฒนาสื่อการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์เรื่องการทำความสะอาดมือและการป้องกันโควิด-19 และการบริจาคเจลล้างมือแอลกอฮอล์ให้แก่โรงพยาบาล 50 แห่ง และเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยจำนวน 15,000 ครอบครัวในพื้นที่ชนบทในประเทศไทย โดยได้รับงบประมาณจากกระทรวงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMZ)