การประชุม SAF ร่วมสร้างเส้นทางสู่การบินที่ยั่งยืนและเชื่อมโยงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในไทย

โครงการ H2Uppp จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเผยแพร่ผลการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา SAF ในประเทศไทย
- โครงการ H2Uppp จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเผยแพร่ผลการศึกษาเรื่องเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน
- เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) คือเชื้อเพลิงเหลวที่ผลิตจากวัตถุดิบตั้งต้นที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอุตสาหกรรมการบิน
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 โครงการส่งเสริมการใช้ไฮโดรเจนและการแปรรูปพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานอื่น หรือ International Hydrogen Ramp-Up (H2Uppp) ประเทศไทย ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเผยแพร่ผลการศึกษาเรื่องการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) พร้อมอภิปรายแนวทางและกลยุทธ์ที่สนับสนุนการนำ SAF มาใช้ในประเทศไทยในอนาคต

ดร.นุวงศ์ ชลคุป ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยพลังงานคาร์บอนต่ำ และ ดร.วิศาล ลีลาวิวัฒน์ นักวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC)
การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ครอบคลุมประเด็น SAF ที่หลากหลายและให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ผู้เข้าร่วมงาน ทำให้เข้าใจภูมิทัศน์ในหลายแง่มุมในการพัฒนา SAF โดย ดร.นุวงศ์ ชลคุป ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยพลังงานคาร์บอนต่ำ ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) นำเสนอกลยุทธ์ด้าน SAF ในภูมิภาคอาเซียน แสดงให้เห็นแนวทางและการริเริ่มที่เกี่ยวข้อง ตามด้วย ดร.วิศาล ลีลาวิวัฒน์ นักวิจัยจากหน่วยงานเดียวกัน ที่กล่าวถึงวิธีการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวกับ SAF และให้ข้อเสนอแนะเรื่องขั้นตอนการทำงานที่สำคัญในอนาคต นอกจากนั้น ดร.คัน เอิน เลี่ยว (Kan-Ern Liew) ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีของแอร์บัส (Airbus) มาเลเซีย ยังแนะนำทางเลือกอื่น ๆ ในการพัฒนา SAF โดยเน้นมุมมองระดับภูมิภาคจากมุมมองด้านอุตสาหกรรมการบิน ขณะที่คุณกำธร นวเลิศปัญญา จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ให้ข้อมูลเรื่องเป้าหมายในการพัฒนา SAF ของไทยและให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับอนาคตของพลังงานชนิดนี้ และปิดท้ายที่ ดร.วัชรา อุไรสกุล นักวิจัยนโยบาย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ซึ่งกล่าวถึงแง่มุมที่สำคัญในการให้ทุนเพื่อการทำวิจัยและพัฒนา SAF และให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2566-2570 ของประเทศไทยที่สามารถสนับสนุนโครงการวิจัยที่สำคัญต่อการผลักดันนวัตกรรมและความยั่งยืนในภาคการบินได้

คุณกำธร นวเลิศปัญญา กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน

ดร.คัน เอิน เลี่ยว (Kan-Ern Liew) ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยี แอร์บัส มาเลเซีย
ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบหลายด้านในการพัฒนา SAF ด้วยทำเลยุทธศาสตร์ที่เอื้อต่อการเชื่อมต่อภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่าการนำ SAF มาใช้ยังเป็นประเด็นที่มีความท้าทาย แต่ผลการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับ SAF ที่โครงการ H2Uppp ได้จัดทำนั้นแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ SAF และความเป็นไปได้ที่จะนำมาใช้จริง โดยการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการผลักดัน SAF ได้มาทำความรู้จักกัน และเป็นการรวมบุคลากรจากหลากหลายภาคส่วนอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน ทั้งภาคอุปสงค์หรือภาคอุปทาน รวมไปถึงผู้กำหนดนโยบาย ซึ่งการพูดคุยที่เกิดขึ้นจะช่วยสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนของภาคการบินในประเทศไทยต่อไป

ดร.วัชรา อุไรสกุล นักวิจัยนโยบาย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
โครงการ H2Uppp ได้รับการสนับสนุนงบประมาณโดยกระทรวงเศรษฐกิจและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMWK) ดำเนินโครงการทั่วโลกโดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) สำหรับโครงการ H2Uppp ในประเทศไทย มีหอการค้าไทย-เยอรมัน (German-Thai Chamber of Commerce – GTCC) เป็นผู้ดำเนินการร่วม และเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคของโครงการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยโครงการฯ ตั้งเป้าที่จะสนับสนุนนโยบายและพัฒนาตลาดสำหรับไฮโดรเจนสีเขียวและ Power-to-X ผ่านการศึกษาและการฝึกอบรม การริเริ่มความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (PPP) และโครงการต่าง ๆ ตลอดจนการส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้และการสร้างเครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภาคเอกชนของประเทศเยอรมนี

ผู้ร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมสนทนาในช่วงถาม-ตอบ
ทิม นีส์
ผู้จัดการโครงการ H2Uppp
อีเมล:tim.nees(at)giz.de