เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา ทีมงาน Corporate Sustainability Handprint (CSH) ภายใต้การดำเนินงานของ GIZ ประจำประเทศไทย ได้จัดการประชุมหัวข้อ “การจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในองค์กร” ณ โรงแรมอริยาศรมวิลล่า โดยมีผู้จัดการสำนักงานประจำโครงการของ GIZ และแผนกบริการฝึกอบรม AIZ เข้าร่วม เพื่อรับทราบแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
มารี รอสเซ็ตติ หัวหน้าโครงการ Corporate Sustainability Handprint (CSH) ประจำประเทศไทย กล่าวถึงแนวทางปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของ GIZ ว่า “การจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นพันธกิจหลักที่สำคัญของโครงการ CSH โดยโครงการฯ จะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้แต่ละประเทศทั่วโลกนำแนวทางการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับกฏระเบียบและข้อปฏิบัติของประเทศนั้นๆ สำหรับประเทศไทยในฐานะที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค เรามีหน้าที่ที่จะต้องพัฒนาการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประเทศอื่นๆ ยิ่งเรามีการจัดซื้อจัดจ้างมากเท่าไหร่ ประเทศอื่นๆ ก็น่าจะต้องมีการจัดซื้อจัดจ้างมากเช่นกัน ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินงานที่เป็นระบบ และมีแผนปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวที่ชัดเจน และที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเข้าใจและเรียนรู้ไปพร้อมกัน”
ในการประชุม ยังได้รับเกียรติจากคุณจรินทร์ภรณ์ ติพพะมงคล นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษจากกรมควบคุมมลพิษ มาให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการในการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แนวทางปฏิบัติของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนของไทยที่มีการส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และชนิดของฉลากที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ในประเทศไทย
“ปัจจุบันการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยังไม่ได้มีกฏหมายบังคับจากภาครัฐบาล แต่เป็นการขอความร่วมมือต่อภาคเอกชนในเรื่องการช่วยกันลดมลพิษ เพื่ออนาคตของส่วนรวม ดังนั้นสินค้าและบริการที่มีอยู่ในประเทศจึงไม่ได้มีใบประกาศรับรองในทุกๆ สินค้าหรือทุกๆ บริการ แต่เวลาเราไปซื้อของ เราจะเห็นว่าสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ได้มีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับสินค้าที่ไม่ได้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า เราควรช่วยกันพิจารณาถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า แล้วนั่นแหละ เราก็จะตัดสินใจเลือกสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เริ่มตั้งแต่วันนี้ ดีกว่าไม่เริ่มเลย เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นในประเทศเรา”
ไฮไลท์ของการประชุมครั้งนี้ ก็คือ โครงการฯ ได้เลือกจัดการประชุมที่โรงแรมอริยาศรมวิลล่า ซึ่งเป็นโรงแรมที่ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ในการทำธุรกิจโรงแรมสไตล์อนุรักษ์ธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีระบบการจัดการและแนวทางการปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ห้องอาหารที่ให้บริการอาหารออร์แกนิก ปราศจากสารเคมี การเลือกใช้สินค้าและวัตถุดิบที่หาได้จากในพื้นที่
การประชุมยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้ค้นหาข้อสรุปเกี่ยวกับการวิธีการเลือกโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่จะใช้จัดประชุมหรือทำกิจกรรมต่างๆ ตามกฏระเบียบและเกณฑ์การคัดเลือกโรงแรมของ GIZ ประจำประเทศไทยนั้น โรงแรมจะต้องมีนโยบายด้านการพัฒนาธุรกิจและบุคลากร เพื่อลดผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนให้มีการจัดซื้อสินค้าหรือการให้บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงานในอาคาร การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของคนในชุมชน การลดการใช้กระดาษ การนำถุงพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ และการนำอาหารเหลือทิ้งมาทำเป็นอาหารจานใหม่
การจัดประชุมครั้งนี้ ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้รับความรู้และมุมมองต่างๆ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่กว้างขึ้น เพื่อนำไปเป็นแนวทางและข้อปฏิบัติร่วมกันในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกซื้อสินค้าที่มีฉลากเบอร์ 5 ซึ่งช่วยประหยัดพลังงาน หรือการลดการทิ้งขยะที่ไม่จำเป็น โดยยืดอายุการทำงานของสิ่งของ เช่น การรู้จักวิธีรักษาเครื่องใช้สำนักงาน การนำถุงพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ หรือแม้แต้การศึกษาวิธีการทิ้งขยะและการคัดแยกขยะให้ถูกต้อง สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เราทุกคนสามารถช่วยกันได้ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน