วิกฤติของพลาสติก ถึงเวลาลด-เลิกใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวแล้วทิ้ง!

พลาสติกเป็นปัญหาที่เกือบทุกประเทศทั่วโลกเผชิญอยู่ และในประเทศไทย ปัญหานี้กลายเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็พูดถึง แน่นอนว่าการเสียชีวิตของพะยูนมาเรียม ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรก ก่อนหน้านี้ กวางที่เขาใหญ่เสียชีวิตจากการกลืนพลาสติก วาฬเกยตื้นที่จังหวัดสงขลา เสียชีวิตจากการกลืนถุงพลาสติกไป 80 ใบ เต่ามะเฟืองเกยตื้นเสียชีวิตจากการกลืนถุงพลาสติก 9 ใบ บริเวณชายหาดจังหวัดระยอง และมีสัตว์อีกมากมายที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นี่เป็นหลักฐานที่น่าเศร้าของการใช้พลาสติกของมนุษย์ พลาสติกให้โทษต่อมนุษย์มากมาย อายุของพลาสติกบางชนิดสามารถอยู่ได้นานกว่าชีวิตมนุษย์ และสามารถหาได้ทั่วไป พลาสติกจำนวนมากถูกสะสมมาเป็นเวลานานหลายทศวรรษ หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นศตวรรษ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อทุกชีวิตบนโลกนี้
ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับพลาสติก
พลาสติกถูกคิดค้นโดย Leo Baekeland นักเคมีชาวเบลเยียม ในปี พ.ศ. 2450 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
พลาสติกมีแหล่งกำเนิดจากปิโตรเลียม ซึ่งรวมถึงน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ
พลาสติกใช้ได้สะดวก ราคาถูก ผลิตและซื้อหาง่าย น้ำหนักเบา กันน้ำและความร้อน ทนทาน และยังเป็นสิ่งที่สามารถช่วยชีวิตมนุษย์ได้ในการแพทย์
แต่รู้หรือไม่ว่า พลาสติกใช้เวลาในการย่อยสลายนานถึง 450-1,000 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของพลาสติก ในขณะที่ระยะเวลาที่เราใช้ถุงพลาสติกโดยเฉลี่ยเพียง 12 นาทีเท่านั้น
พลาสติกจะแตกตัวกลายเป็นไมโครพลาสติกที่มีสารพิษ และเป็นอันตรายต่อสัตว์และมนุษย์ เมื่อมีการเผาพลาสติก สารพิษจะถูกปล่อยเข้าสู่บรรยากาศ และสารเคมีที่ออกมาสามารถส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนของมนุษย์
มีการคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2562 นี้ พลาสติกจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาเทียบเท่ากับคาร์บอนไดออกไซด์ 850 ล้านตันสู่ชั้นบรรยากาศ
ขยะพลาสติกมาจากไหน

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ก่อมลพิษขยะพลาสติกที่ใหญ่ที่สุดติดอันดับ 6 ของโลก
ประเทศไทยสร้างขยะ 26.85 ล้านตันในปี พ.ศ. 2561 ซึ่งเท่ากับ 1.13 กิโลกรัม ต่อคนต่อวัน
2.7 ล้านตันเป็นพลาสติกและโฟม หรือเฉลี่ย 7,000 ตันต่อวัน ซึ่ง 5,300 ตันเป็นพลาสติก
ในหนึ่งปี มีการใช้ถุงพลาสติก 500 ล้านใบ ซึ่งโดยเฉลี่ยหนึ่งคนใช้ถุงพลาสติก 8 ใบต่อวัน (สำรวจในปี พ.ศ. 2560 โดยกรมควบคุมมลพิษ)
ร้อยละ 23 หรือ 6.22 ล้านตันของขยะทั้งหมดต่อปี ไม่ได้รับการจัดเก็บและจัดการอย่างถูกวิธี
ในปี พ.ศ. 2561 จังหวัดชายฝั่งสร้างทั้ง 23 จังหวัดมีขยะ 10 ล้านตันต่อปี ซึ่ง 5 ล้านตัน ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเปิดเผยว่าขยะพลาสติก 50,000 – 60,000 ตันหรือ 750 ล้านชิ้นไหลลงสู่ทะเล
ขยะพลาสติกที่พบในทะเลได้แก่ ถุง (ร้อยละ 18) ขวดพลาสติก (ร้อยละ 17) และภาชนะบรรจุอาหาร (ร้อยละ 9) หลอด (ร้อยละ 5) และฝาขวดพลาสติก (ร้อยละ 3)
ประเทศไทยได้มีการดำเนินการอะไรบ้าง
เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เชิญชวนร้านค้า ห้างสรรพสินค้า สมาคมการค้า และผู้ผลิตพลาสติกเข้าร่วมแคมเปญลดการใช้ถุงพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อหลายแห่ง จะงดให้ถุงพลาสติกกับผู้ที่มาซื้อสินค้าโดยจะเริ่มในเดือนมกราคม พ.ศ. 2563
แผนงานการจัดการขยะพลาสติก ปี พ.ศ. 2561-2573 ระบุว่า ภายในปี พ.ศ. 2562 ประเทศไทยจะสั่งห้ามการใช้พลาสติก 3 ชนิด ได้แก่ 1) ไมโครบีดจากพลาสติก (Microbead) พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม และผลิตภัณฑ์พลาสติกที่มีส่วนผสมของสารประเภทอ็อกโซ่ (Oxo) หรือถุงพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ ซึ่งผู้ผลิตใส่สารเติมแต่งเพื่อให้เปราะมากขึ้น แตกตัวเป็นชิ้นเล็ก จนเป็นไมโครพลาสติกได้เร็วขึ้น ซึ่งสามารถปนเปื้อนเข้าไปในสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา หรือแม้แต่สิ่งมีชีวิตเล็กๆ
และใน พ.ศ. 2565 จะเลิกใช้พลาสติก 4 ประเภท ซึ่งเป็นพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single use Plastic) ได้แก่ 1) ถุงพลาสติกหูหิ้ว 2) กล่องโฟมบรรจุอาหาร 3) แก้วพลาสติก (แบบบางใช้ครั้งเดียว) 4) หลอดพลาสติก
ในปี พ.ศ. 2570 ตั้งเป้านำขยะผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์พลาสติกกลับเข้ามาใช้ประโยชน์ 100% รวมถึงการเปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงาน
ผู้ผลิตน้ำดื่มรายใหญ่ 5 รายได้ยกเลิกการใช้พลาสติกหุ้มฝาตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2561 ผู้ผลิตรายเล็กจะยุติการใช้พลาสติกหุ้มฝาภายในปี พ.ศ. 2562
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาประกาศห้ามการผลิตนำเข้าและจำหน่ายเครื่องสำอางที่มีไมโครบีด
ประเทศอื่นๆ มีการดำเนินการอย่างไรในเรื่องการใช้พลาสติก
ในบรรดาหลายๆ ประเทศ แคนาดาตั้งเป้ายกเลิกพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้งภายในปี พ.ศ. 2564
อินเดียจะยกเลิกพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2565 นายกรัฐมนตรีของอินเดียจะเปิดตัวแคมเปญงดใช้ถุงพลาสติก ถ้วย จาน ขวดขนาดเล็ก หลอดและซองบรรจุบางประเภท
ประเทศจีนได้สั่งห้ามการนำเข้าขยะพลาสติกจากต่างประเทศในปี พ.ศ.2560 ประเทศเคนยาซึ่งตกเป็นพาดหัวข่าวทั่วโลกในการประกาศ บังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดที่สุดในโลกในการต่อต้านการใช้ถุงพลาสติกเมื่อปีที่แล้ว ผู้ที่เดินทาง หรืออาศัยอยู่ในประเทศเคนยา ทั้งที่ผลิตขาย อาจถูกจำคุกถึง 4 ปี หรือปรับ 40,000 ดอลลาร์ สหรัฐฯ (ประมาณ 1.2 ล้านบาท) ส่วนผู้ที่ใช้ถุงพลาสติกอาจถูกปรับมากกว่า 500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 15,000 บาท หรือจำคุก 1 ปี
กระทรวงสิ่งแวดล้อม คุ้มครองธรรมชาติ และความปลอดภัยทางปรมาณู สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMU) ได้ประกาศแผน 5 จุด เพื่อลดขยะพลาสติก ในปี พ.ศ. 2561 ซึ่งได้แก่
- การหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่ไม่จำเป็น
- การทำบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ด้วยกฎการออกใบอนุญาตใหม่
- การรีไซเคิลที่มากขึ้น เพิ่มจุดรีไซเคิลให้มากขึ้น
- การป้องกันพลาสติกไม่ให้เข้าไปในขยะอินทรีย์
- การให้ความช่วยเหลือกับต่างประเทศในการจำกัดขยะพลาสติกในมหาสมุทร ซึ่งรวมถึงการเพิ่มช่วยเหลือด้านการเงินให้กับประเทศอื่น ๆ
(ที่มา: Deutsche Welle)
รัฐบาลเยอรมันได้ประกาศแผนการคืนเงินมัดจำ เมื่อผู้บริโภคซื้อเครื่องดื่ม ค่ามัดจำขวดเครื่องดื่มนั้นได้ถูกรวมไปในราคาขายของเครื่องดื่ม ซึ่งเมื่อผู้บริโภคคืนขวดเครื่องดื่มที่จุดรวบรวมก็จะได้รับเงินมัดจำนั้นคืน
รัฐบาลเยอรมันให้การสนับสนุนประเทศต่างๆ มายาวนาน รวมถึงในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศไทย ผ่าน GIZ ในสาขาต่างๆ เช่น การเกษตร การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พลังงาน ธรรมาภิบาล การขนส่ง การพัฒนาเมืองและอุตสาหกรรม การจัดการของเสียและทรัพยากรธรรมชาติ และการอาชีวศึกษา
ในด้านปัญหาขยะและขยะพลาสติก โครงการ Rethinking plastics – circular economy solutions to marine litter ซึ่งได้รับทุนจากกระทรวงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMZ) และสหภาพยุโรป สนับสนุนประเทศไทยในการเปลี่ยนผ่านสู่การบริโภคและการผลิตพลาสติกอย่างยั่งยืน รวมทั้งประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อลดจำนวนขยะในทะเล โครงการฯ เสริมสร้างความร่วมมือของสหภาพยุโรปกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคทั้งในด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน ขยะพลาสติก และการลดขยะในทะเล
โครงการด้านการจัดการขยะ ภายใต้แผนงานความร่วมมือไทย-เยอรมันด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สนับสนุนรัฐบาลไทยในการปรับปรุงกรอบนโยบายด้านการจัดการขยะและน้ำเสียชุมชน และสนับสนุนการดำเนินการตามเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ โดยมีกระทรวงสิ่งแวดล้อม คุ้มครองธรรมชาติ และความปลอดภัยทางปรมาณู สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMU) ผ่านแผนงานปกป้องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับสากล (IKI) สนับสนุนด้านงบประมาณ
โครงการพัฒนาการและการวัดผลการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน สำหรับสังคมเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลาง และกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมใหม่ สนับสนุนการบูรณาการเกณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศ ผนวกเข้ากับฉลากสิ่งแวดล้อมในประเทศเป้าหมาย ซึ่งได้แก่ ประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และพัฒนาการรับรู้ร่วมกันในเรื่องฉลากสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งโครงการฯได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจาก BMU
ความร่วมมือเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับประเทศและระดับโลก การแก้ปัญหาไม่สามารถมุ่งประเด็นการลดการใช้พลาสติกไปที่ผู้บริโภคเพียงด้านเดียว ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นบทบาทหน้าที่ของรัฐบาลในการออกกฎหมาย กำหนดกฎระเบียบ หรือข้อบังคับ นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ หรือนักออกแบบผลิตภัณฑ์ร่วมกันค้นหาทางเลือกที่ยั่งยืน บริษัทผลิตหรือจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันเลือกใช้พัสดุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การสร้างความตระหนักรู้และการสนับสนุนจากสื่อและภาคประชาสังคม และการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคเองควรเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน
ที่มา: The Guardian, National Geographic, Deutsche Welle, Reuters, กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม, กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, Bangkok Post
GALLERY
กาญจนา งามกาหลง
เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร
Email:kanjana.ngamkalong(at)giz.de