“การเข้าถึงไฟฟ้าเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น เราจำเป็นต้องให้การสนับสนุนเกาะที่อยู่นอกโครงข่ายไฟฟ้าให้มีไฟฟ้าใช้และช่วยให้วิสัยทัศน์ของพวกเขากลายเป็นจริง” นายดำรง สินโต นายกองค์การบริหารส่วนตำบลซึ่งเป็นองค์กรท้องถิ่นที่มีหน้าที่รับผิดชอบหนึ่งในเกาะนำร่องในทะเลอันดามันกล่าว

บนเกาะส่วนใหญ่ที่อยู่นอกโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศไทย ประชากรต้องพึ่งพากระแสไฟฟ้าที่ผลิตจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซลซึ่งทำงานเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน ปัญหาที่เกาะเหล่านี้เผชิญคือการเข้าถึงไฟฟ้าที่จำกัด มีราคาแพงและขาดความต่อเนื่อง ระบบพลังงานทดแทนแบบผสมผสานสามารถจัดการกับความท้าทายในการจัดหาไฟฟ้าที่มั่นคงได้

ปัจจุบันโครงการได้ให้การสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐบาลและภาคท้องถิ่นในการพัฒนารูปแบบทางเลือกและที่คุ้มค่ากับการลงทุนในการจัดหาไฟฟ้าให้เกาะในประเทศไทยที่อยู่นอกโครงข่ายไฟฟ้าโดยให้คนได้รับประโยชน์อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ตามที่ได้มีการลงพื้นที่เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2560 ทีมงานโครงการและที่ปรึกษาด้านเทคนิคได้ศึกษาความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจ-สังคมและทางเทคนิคสำหรับพื้นที่นำร่องสองแห่ง ได้แก่ เกาะหมากน้อย จังหวัดพังงา และเกาะบุโหลนดอน จังหวัดสตูล เกาะทั้งสองแห่งนี้ซึ่งมีขนาดของพื้นที่เกาะ โครงสร้างรายได้ และจำนวนประชากรที่แตกต่างกัน สามารถเป็นต้นแบบสำหรับชุมชนเกาะแห่งอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์ความหลากหลายของลักษณะเกาะ จึงได้มีการพัฒนารูปแบบทางธุรกิจและการดำเนินงานขึ้นมา 2 รูปแบบ โดยเกาะหมากน้อยจะได้รับประโยชน์จากการเข้ามามีส่วนร่วมของภาครัฐ ในขณะที่เกาะบุโหลนดอนจะเป็นโครงการที่ขับเคลื่อนโดยภาคเอกชนเป็นหลัก

เมื่อเดือนสิงหาคม โครงการได้มีโอกาสไปเยือนเกาะทั้งสองแห่งอีกครั้งพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือเกี่ยวกับผลลัพธ์ รวบรวมข้อเสนอแนะ และพัฒนารูปแบบการดำเนินโครงการที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ยังคงมีการหารือและการประชุมด้านเทคนิคอย่างต่อเนื่องที่กรุงเทพฯ แม้ว่าจะยังคงมีอุปสรรคบางประการ ทุกฝ่ายต่างมีแรงจูงใจสูงในการดำเนินการโครงการต่อไปข้างหน้า

คำกล่าวจากการประชุมชุมชนบุโหลนดอนเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม:

คำกล่าวเพิ่มเติมจากการประชุมองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม: