ความเป็นมา
แม้ว่าปัจจุบันประชากรในประเทศไทยมีอัตราการเข้าถึงไฟฟ้าถึงร้อยละ 99 แต่มีชุมชนที่อยู่นอกระบบโครงข่ายไฟฟ้า อย่างเกาะในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ที่ต้องพึ่งพาเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซล ไม่ว่าจะเป็นการปั่นไฟเพื่อใช้ในครัวเรือน หรือจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนที่ขายไฟฟ้าให้แก่ชุมชน
เกาะเหล่านี้ต้องเผชิญกับปัญหาการใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่อย่างจำกัด ราคาสูง และไฟฟ้าตกหรือไฟฟ้าดับ โดยปกติเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลทำงานเพียงวันละ 4-6 ชั่วโมง และการผลิตไฟฟ้าโดยเครื่องปั่นไฟนั้นก็มีต้นทุนสูงเมื่อเทียบกับค่าไฟมาตรฐานของประเทศ และบางครั้งชุมชนก็ไม่มีกำลังทรัพย์เพียงพอที่จะจ่ายได้
วัตถุประสงค์และแนวทางการดำเนินงาน
ระบบกริด (เครือข่ายการจ่ายไฟฟ้า) แบบผสมผสานระหว่างพลังงานทดแทนและน้ำมันดีเซล หรือที่เรียกว่าไฮบริดกริด ช่วยให้ชุมชนที่อยู่นอกระบบโครงข่ายไฟฟ้า สามารถเข้าถึงไฟฟ้าได้มากขึ้น และยังแก้ปัญหาเรื่องราคาสูงและไฟฟ้าที่ไม่เสถียร
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจลงทุนทำระบบกริด ไม่สามารถประเมินความเหมาะสมของการลงทุนได้ เนื่องจากยังขาดการศึกษาด้านความเหมาะสม ด้วยเหตุนี้ โครงการฯ จึงทำหน้าที่เป็นผู้ศึกษาความเหมาะสมและพัฒนารูปแบบธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของชุมชน รวมไปถึงการวางแผนการดำเนินงานที่เหมาะสมเพื่อสร้างมูลค่าให้กับท้องถิ่นและรองรับการดำเนินงานในระยะยาว ขั้นตอนการดำเนินงานโครงการมีดังนี้:
- ระบุเกาะที่มีความเหมาะสมในการนำระบบพลังงานทดแทนแบบผสมผสานมาใช้
- เลือกเกาะที่มีความเป็นไปได้ในการดำเนินการ
- ลงพื้นที่สำรวจ เก็บข้อมูลและประเมินเกาะที่ได้คัดเลือก
- จัดทำรายงานการศึกษาความเหมาะสมในการนำระบบพลังงานทดแทนแบบผสมผสานมาใช้บนเกาะ
- พัฒนารูปแบบธุรกิจที่เหมาะสมกับชุมชน
- จัดหาและร่วมมือกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบ
- สนับสนุนและช่วยเหลือในกระบวนการติดตั้งระบบ
- จัดอบรมและให้ความรู้กับชุมชน
การพัฒนารูปแบบธุรกิจที่เหมาะสมกับชุมชน จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับท้องถิ่น ทางเลือกที่น่าสนใจและความเป็นไปได้ในการดำเนินงานด้านนี้ คือ การมีบริษัทจัดการพลังงานทดแทน หรือ RESCO ที่มีโครงสร้างการบริหารจัดการโดยชุมชนและได้รับการสนับสนุนความรู้และการฝึกอบรมด้านเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งชุมชนเกาะจะได้รับประโยชน์สองต่อ คือ การเข้าถึงไฟฟ้าที่มั่นคงซึ่งจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน และการสร้างมูลค่าให้ท้องถิ่นซึ่งจะช่วยให้ชุมชนมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
ผลกระทบ
ระบบไฮบริดกริดจะช่วยเปิดโอกาสให้ชุมชนได้ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์มากที่สุดในราคาที่สามารถจ่ายได้ ซึ่งจะส่งผลดีในหลายๆ ด้านดังนี้
ธุรกิจและการสร้างอาชีพ
การเข้าถึงไฟฟ้าที่มั่นคง ช่วยให้มีร้านค้า ร้านอาหารและธุรกิจขนาดเล็กเกิดขึ้นในท้องถิ่น ธุรกิจเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างรายได้เท่านั้น แต่ยังสร้างงานในท้องถิ่นอีกด้วย
สิ่งแวดล้อม
การขนส่ง การเก็บน้ำมัน รวมไปถึงการเดินเครื่องปั่นไฟที่ลดลง จะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นการช่วยลดมลพิษทางอากาศ เสียง ทะเล และดิน ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
การศึกษา
การมีไฟฟ้าใช้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง และการลดลงของปัญหามลพิษทางเสียงและอากาศ จะส่งผลดีต่อสภาพแวดล้อมของการเรียนรู้โดยรวม
การมีน้ำสะอาดใช้
การเข้าถึงไฟฟ้าจะช่วยให้ชุมชนสามารถสูบน้ำจากแหล่งน้ำและมีน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภคได้เพียงพอต่อความต้องการ ปริมาณขยะพลาสติกจะลดลงและลดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำดื่มที่ขนส่งมาจากฝั่งซึ่งมักมีราคาแพง
สุขภาพ
การมีไฟฟ้าใช้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง จะส่งผลให้ศูนย์บริการสุขภาพของชุมชน มีเครื่องทำความเย็นที่สามารถเก็บยาไว้ได้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมและสามารถใช้เครื่องมือแพทย์ต่างๆ ที่จำเป็นได้สะดวกขึ้น ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพของการบริการด้านสุขภาพ
การเก็บรักษาอาหาร
การมีไฟฟ้าใช้อย่างต่อเนื่อง จะทำให้คนในชุมชนสามารถใช้อุปกรณ์ทำความเย็นในการเก็บอาหารได้นานขึ้น อีกทั้งการประมง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของเกาะ ก็จะได้รับประโยชน์จากการเก็บอาหารทะเลได้นานขึ้นด้วยเครื่องทำความเย็นหรืออุปกรณ์อบแห้ง
โทรคมนาคมและการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต
การเชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์ในเกาะส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี แต่ยังมีข้อจำกัดในการชาร์จแบตเตอรี่ของอุปกรณ์สื่อสาร เนื่องจากต้องชาร์จเฉพาะในช่วงที่มีการเดินเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลเท่านั้น การมีไฟฟ้าใช้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คนในชุมชนสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้สายจะแพร่หลายมากขึ้น และสามารถติดตั้งในสถานที่ต่างๆ เช่น บริเวณศูนย์บริการสุขภาพ โรงเรียน อาคารราชการ เพื่อให้คนในชุมชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น
ผู้สนับสนุน: มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ (The Rockefeller Foundation)
นับเป็นครั้งแรกที่ GIZ และมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ผนึกกำลังร่วมมือกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกาะในประเทศไทยมีเทคโนโลยีสะอาดใช้บนพื้นฐานของรูปแบบธุรกิจที่ยั่งยืน
มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์สนับสนุนโครงการฯ ภายใต้กรอบแนวคิด “Smart Power for Rural Development Initiative” (SPRD) เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงาน โดยจัดการไฟฟ้าในรูปแบบมินิกริดเพื่อให้แสงสว่างและใช้ในการประกอบธุรกิจ
ระยะเวลาดำเนินโครงการ
ธันวาคม 2559 – ธันวาคม 2560
ผลการดำเนินโครงการที่ผ่านมา
เกณฑ์การคัดเลือกพื้นที่
เกณฑ์การคัดเลือกพื้นที่พัฒนามาจากประสบการณ์การดำเนินโครงการของ GIZ ที่ประสบความสำเร็จในทวีปเอเชียและแอฟริกา
GIZ ใช้เกณฑ์ดังกล่าวในการคัดเลือกเกาะจำนวน 3 เกาะที่มีความเป็นไปได้ในการดำเนินการมากที่สุด เพื่อลงพื้นที่สำรวจและเก็บข้อมูลจากจำนวนทั้งหมด 5 เกาะที่ได้ระบุไว้ก่อนหน้าว่ามีความเหมาะสมในการนำระบบพลังงานทดแทนแบบผสมผสานมาใช้
เกณฑ์การคัดเลือกพื้นที่
การสำรวจพื้นที่
GIZ และที่ปรึกษาด้านเทคนิคได้ลงพื้นที่เกาะที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 3 เกาะ เพื่อสำรวจและเก็บข้อมูลเชิงเทคนิค เศรษฐกิจและสังคม เพื่อประเมินความเหมาะสมในการนำระบบพลังงานทดแทนแบบผสมผสานไปใช้
พิจารณาจากข้อมูลที่รวบรวมมา โครงการได้คัดเลือก 2 เกาะ เพื่อออกแบบระบบพลังงานทดแทนแบบผสมผสาน
รายงานการสำรวจพื้นที่เกาะบูโหลนดอน
รายงานการสำรวจพื้นที่เกาะบูโหลนเล
รายงานการสำรวจพื้นที่เกาะหมากน้อย
รูปแบบธุรกิจ
ในระหว่างที่ที่ปรึกษาด้านเทคนิคออกแบบระบบพลังงานทดแทนแบบผสมผสานที่เหมาะสมสำหรับเกาะ GIZ ก็ได้พัฒนารูปแบบธุรกิจที่มีความเป็นไปได้และเหมาะสม เพื่อให้ชุมชนได้รับผลประโยชน์สูงสุดและช่วยสร้างมูลค่าให้ท้องถิ่น รูปแบบธุรกิจที่พัฒนาขึ้นกำลังอยู่ระหว่างการทบทวนและกลั่นกรองโดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
รูปแบบธุรกิจ
การศึกษาความเป็นไปได้ – การออกแบบระบบ
หลังจากการรวบรวมข้อมูลและการสำรวจพื้นที่ ได้มีการคำนวณการออกแบบระบบไฮบริดกริดสำหรับสองเกาะที่เลือก การศึกษาความเป็นไปได้นี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ง่ายต่อการเข้าถึงเทคโนโลยีและขนาดของระบบที่ถูกแนะนำ แต่ยังง่ายต่อการเข้าถึงการลงทุนด้วย
การศึกษาความเป็นไปได้เกาะบูโหลนดอน
การศึกษาความเป็นไปได้เกาะหมากน้อย
รายงานสรุปผลการดำเนินงาน
คลิกทีนี่