“โครงการการสอนงานที่มีประสิทธิภาพในสถานประกอบการในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง” มุ่งส่งเสริมความร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อสนับสนุนการศึกษาและการฝึกอาชีพในสถานประกอบการ โดยให้สถานประกอบการมีส่วนร่วมในการพัฒนากำลังคน และตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างแรงงานฝีมือด้วยตนเอง”
ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝีมือเพิ่มมากขึ้น ความร่วมมือจากภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนการศึกษา และการฝึกอาชีพในสถานประกอบการ จึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน เพื่อผลิตแรงงานฝีมือที่ตอบสนองต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรม
เนื่องจากการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคลุ่มน้ำแม่โขงส่วนใหญ่เป็นการสอนภายในสถานศึกษาเป็นหลัก ทั้งยังขาดการฝึกภาคปฏิบัติในสถานประกอบการ ทำให้ผลิตแรงงานฝีมือออกมาได้ไม่ตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ดังนั้นการส่งเสริมให้สถานประกอบการจัดการสอนงานอย่างมีประสิทธิภาพภายในองค์กร จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมเพื่อปรับให้อุปสงค์แรงงานฝีมือสอดคล้องกับอุปทานของระบบการศึกษาที่บริหารจัดการโดยภาครัฐ ก่อนที่จะมุ่งสู่การพัฒนาให้เกิดโครงสร้างการประสานงานอย่างยั่งยืนระหว่างทั้งสองฝ่าย
ดังนั้น เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ได้รับเงินสนับสนุนจากกระทรวงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา แห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMZ) เพื่อจัดตั้ง โครงการการสอนงานที่มีประสิทธิภาพในสถานประกอบการในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งได้ดำเนินมาตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2556 และจะสิ้นสุดลงในเดือน กรกฎาคม 2559
วัตถุประสงค์และแนวทางการดำเนินงาน
โครงการการสอนงานที่มีประสิทธิภาพในสถานประกอบการในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง มีวัตถุประสงค์ในการผลักดันการสร้างแรงงานฝีมือในประเทศลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพการสอนงานในสถานประกอบการ โดยครูฝึกในสถานประกอบการที่มีมาตรฐาน และส่งเสริมความร่วมมือของภาครัฐ และภาคเอกชนเพื่อสนับสนุนการศึกษาและการฝึกอาชีพในสถานประกอบการ โดยให้สถานประกอบการมีส่วนร่วมในการพัฒนากำลังคน และตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างแรงงานฝีมือด้วยตนเอง
การให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบการศึกษาและการฝึกอาชีพนั้น ต้องอาศัยการสอนงานที่มีประสิทธิภาพจากครูฝึกในสถานประกอบการ เนื่องจากครูฝึกที่มีมาตรฐานเป็นตัวแปรหลักในการกำหนดคุณภาพของการสอนงานในสถานประกอบการ ดังนั้น มาตรฐานครูฝึกในสถานประกอบการสำหรับภูมิภาคอาเซียน (Standard for In-Company Trainers in ASEAN Countries) จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับรองว่าครูฝึกจะสามารถสอนงานในสถานประกอบการได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกันทั่วภูมิภาค ส่งผลต่อการเพิ่มจำนวนแรงงานฝีมือที่มีคุณภาพในตลาดแรงงานในภูมิภาคอาเซียน
หลังจากได้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนามาตรฐานครูฝึกในสถานประกอบการสำหรับภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ทั้งหมด 4 ครั้ง เริ่มตั้งแต่เดือน กันยายน 2557 จนถึง กุมภาพันธ์ 2558 ผ่านการประสานความร่วมมือระหว่างโครงการการสอนงานที่มีประสิทธิภาพในสถานประกอบการในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และโครงการทวิภาคีขององค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ในแต่ละประเทศ รวมถึงโครงการ “K to 12 Plus” โดย Sequa GmbH จากฟิลิปปินส์ โดยมีตัวแทนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากภาครัฐและภาคเอกชน 60 คน จาก 6 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ ไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ขณะนี้มาตรฐานครูฝึกในสถานประกอบการสำหรับภูมิภาคอาเซียน โดยเน้นหลักการการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เสร็จสมบูรณ์และพร้อมนำไปปรับใช้ในประเทศต่างๆแล้ว
เหตุผลหลักที่ทางโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากประเทศต่างๆในการพัฒนามาตรฐานครูฝึกในสถานประกอบการสำหรับภูมิภาคอาเซียน คือทางโครงการต้องการให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเหล่านี้ยอมรับและเป็นเจ้าของมาตรฐานที่ได้ร่วมกันพัฒนา นอกจากนี้ การพัฒนาเนื้อหามาตรฐานให้ตรงตามความต้องการของบริบทท้องถิ่นอย่างแท้จริง จะช่วยผลักดันให้แต่ละประเทศนำมาตรฐานนี้ไปปรับใช้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ: website, factsheet, Facebook
สนับสนุนงบประมาณโดย
กระทรวงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMZ)