เมื่อวันที่ 21-22 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา สำนักเลขาธิการอาเซียนร่วมกับโครงการความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อส่งเสริมคุณภาพของการอาชีวศึกษา ที่มุ่งเน้นความต้องการของตลาดแรงงาน (RECOTVET) จัดการประชุมหารือระดับภูมิภาคครั้งที่ 7 ภายใต้หัวข้อ “ความร่วมมือของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในการพัฒนาการอาชีวศึกษา – สู่ความเป็นเลิศในอาเซียน” รวมทั้งมีการเปิดตัวคณะทำงานระดับภูมิภาคด้าน “ความร่วมมือของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในการพัฒนาการอาชีวศึกษา” ที่จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
ประเทศสมาชิกอาเซียน (AMS) ยอมรับว่าการศึกษาด้านการอาชีวศึกษา (TVET) เป็นองค์ประกอบสำคัญที่เสริมสร้างทักษะของคนทำงานให้เหมาะสมกับความต้องการของอุตสาหกรรม และยังช่วยผลักดันให้เยาวชนเข้าสู่ตลาดแรงงานเพื่อลดปัญหาการว่างงาน การศึกษาด้านการอาชีวศึกษา(TVET) ถูกจัดไว้เป็นลำดับต้นๆ ในวาระการประชุมของประเทศสมาชิกอาเซียน (AMS) และในระดับภูมิภาค ปัจจุบันระบบการศึกษาด้านการอาชีวศึกษาในโรงเรียนของประเทศสมาชิกอาเซียน ก็ได้มีการบูรณาการการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนของอัตราการลงทะเบียนเรียนในโรงเรียนและคุณภาพของการสอนด้านการอาชีวศึกษายังไม่เป็นที่น่าพอใจ ผู้สำเร็จการศึกษาด้านการอาชีวศึกษา ยังไม่สามารถใช้ความรู้ด้านอาชีพและความสามารถในทางปฏิบัติที่มีอยู่ ตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมได้เท่าที่ควร หากคำนึงถึงบทเรียนที่ได้จากการศึกษาด้านการอาชีวศึกษาที่ประสบผลสำเร็จทั่วภูมิภาค หนึ่งปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จ ก็คือ ความร่วมมือของนายจ้างและวิทยาลัยการอาชีวศึกษา “ภาคอุตสาหกรรมและภาคเอกชน เป็นภาคส่วนสำคัญระดับแนวหน้าที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ และภาคส่วนดังกล่าวนี้ยังตระหนักรู้เกี่ยวกับทักษะที่จำเป็นที่สุดในตลาดแรงงาน อาจกล่าวได้ว่าการส่งเสริมให้เกิดการหารือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและภาคเอกชนครั้งนี้ จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากปัจจุบันโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว” H.E. Dr. Aladdin D. Rillo รองเลขาธิการประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กล่าว
ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2557 การเจรจาหารือเกี่ยวกับนโยบายระดับภูมิภาคที่ได้รับการสนับสนุนโดยโครงการความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อส่งเสริมคุณภาพของการอาชีวศึกษา ที่มุ่งเน้นความต้องการของตลาดแรงงาน (RECOTVET) ในนามของรัฐบาลเยอรมนี ได้กลายเป็นเวทีสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนเรื่องการปฏิรูประบบการศึกษาด้านการอาชีวศึกษาสำหรับผู้มีอำนาจตัดสินใจจากภูมิภาคอาเซียน ดังนั้นการประชุมหารือเกี่ยวกับการศึกษาด้านการอาชีวศึกษา (TVET) ครั้งที่ 7 นี้ จึงเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้งานวิจัยที่ล้ำสมัยและตัวอย่างในแง่ปฏิบัติจากภูมิภาคอาเซียน ที่เกี่ยวกับกลยุทธ์ที่ช่วยพัฒนาความร่วมมือของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในระบบการศึกษาด้านการอาชีวศึกษา H.E. Mr. Michael Freiherr von Ungern-Sternberg เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศอินโดนีเซีย อาเซียนและติมอร์ – เลสเต อธิบายว่าแรงงานที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีจากประเทศเยอรมนี เป็นองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำถึงลักษณะของระบบการฝึกอบรมแบบทวิภาคีของเยอรมนี ซึ่งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันจัดระเบียบ ควบคุมและให้งบประมาณสนับสนุน สำหรับในส่วนของประเทศสมาชิกอาเซียน เขาแนะนำว่า “คุณควรจัดตั้งกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และกลุ่มเหล่านี้ก็จะร่วมมือกันส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สำเร็จการศึกษามีทักษะที่ถูกต้อง”
ในการหารือครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประมาณ 70 คน ได้แก่ เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการศึกษาและเจ้าหน้าที่ส่วนแรงงานจากกระทรวงที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ผู้แทนจากภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระดับภูมิภาค
การหารือด้านนโยบายมุ่งเน้นไปที่สองประเด็น คือ “การเสริมสร้างความร่วมมือของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในการปฏิรูประบบการศึกษาด้านการอาชีวศึกษา” และ “แนวทางของอาเซียนในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคอุตสาหกรรมและโรงเรียนและการฝึกอาชีพ” กลยุทธ์ต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือในการก้าวไปสู่ความร่วมมือของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในระบบการศึกษาด้านการอาชีวศึกษา ถูกนำเสนอโดยอิงจากการวิจัยและการปฏิบัติจริงของเจ้าของธุรกิจและอุตสาหกรรม รวมทั้งตัวแทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย เมียนมา ไทย ฟิลิปปินส์และเวียดนาม ข้อสรุปสำคัญที่ได้จากการหารือครั้งนี้ คือ การยืนยันและความเต็มใจของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่จะร่วมจัดระเบียบและกลไกต่างๆ ในการผลักดันธุรกิจและอุตสาหกรรมให้มีส่วนร่วมในระบบการศึกษาด้านการอาชีวศึกษา ผู้เข้าร่วมประชุมต่างวิเคราะห์ว่า “การที่จะผลักดันศักยภาพไปสู่ความตระหนักรู้” ต้องมุ่งเน้นไปที่การดำเนินงานและปฏิบัติจริง ข้อเสนอแนะสำหรับการดำเนินงานในระยะต่อไป คือ ควรมีการหารืออย่างสม่ำเสมอ มีการเสนอแนะ ให้คำปรึกษาและสื่อสารกันมากขึ้น มีการแบ่งปันความรู้และมีการทำงานร่วมกับผู้ประสบผลสำเร็จด้านระบบการศึกษาด้านการอาชีวศึกษาจากภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ที่พร้อมจะนำพาให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น ภายหลังจากการหารือดังกล่าว จึงได้มีการประกาศเปิดตัวคณะทำงานระดับภูมิภาคที่ประสบผลสำเร็จด้านการอาชีวศึกษาจากภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมขึ้น
เปิดตัวคณะทำงานระดับภูมิภาคด้าน “ความร่วมมือของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในการพัฒนาระบบการศึกษาด้านการอาชีวศึกษา”
ข้อมูลเชิงลึกและข้อค้นพบที่ได้จากการประชุมหารือเกี่ยวกับการศึกษาด้านการอาชีวศึกษา (TVET) ครั้งที่ 7 นี้ เป็นจุดเริ่มต้นของคณะทำงานระดับภูมิภาคด้าน “ความร่วมมือของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในการพัฒนาระบบการศึกษาด้านการอาชีวศึกษา” คณะทำงานประกอบด้วย 19 ตัวแทนชั้นนำของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งได้พบกันเป็นครั้งแรกในวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2561 กฏระเบียบข้อบังคับของคณะทำงานนี้ คือ การพัฒนา “วาระอาเซียนในอนาคตสำหรับการพัฒนาระบบการศึกษาด้านการอาชีวศึกษา (TVET)” จากมุมมองของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม