เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) และโปรแกรมพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้มอบคู่มือแนวทางการพัฒนาและการลงทุนระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แก่ผู้แทนกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สมาคมอุตสาหกรรมแสงอาทิตย์ไทย และหน่วยงานต่างๆ จากภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนการลงทุนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาของภาคพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมในประเทศไทย
คู่มือแนวทางการพัฒนาและการลงทุนระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จะช่วยให้ภาคเอกชนได้รับประโยชน์จากนโยบายด้านพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ซึ่ง USAID ได้สนับสนุนในการศึกษาผลกระทบต่อรายได้ของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย จากการที่ภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้มีปริมาณแสงแดดที่มีค่าความเข้มสูง ประกอบกับความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี ทำให้ภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่มีความเหมาะสมที่จะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เมื่อหลายปีก่อนต้นทุนพลังงานแสงอาทิตย์ยังมีราคาแพงเมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนพลังงานฟอสซิล แต่วันนี้ต้นทุนพลังงานแสงอาทิตย์สามารถแข่งขันได้กับต้นทุนพลังงานฟอสซิล ซึ่งในหลายประเทศได้ลงทุนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้เอง โดยไม่ต้องมีมาตรการสนับสนุนใดๆ จากภาครัฐอีกต่อไป
“พลังงานหมุนเวียนเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเซีย โดยประเทศไทยเป็นผู้นำในการพัฒนาโครงการผลิตพลังงานหมุนเวียนในระดับภูมิภาค ซึ่งทาง USAID และ GIZ ได้ร่วมกันสนับสนุนภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย เราหวังว่าเครื่องมือต่างๆ ในคู่มือที่จัดทำขึ้นนี้จะช่วยลดปัญหา ข้อสงสัย และอุปสรรคในการลงทุนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา และช่วยให้เกิดการลงทุนด้านพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้นในประเทศไทย ตลอดจนสามารถนำไปต่อยอดขยายผลในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคต่อไป” แองเจล่า ฮอกก์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งภูมิภาคจาก USAID กล่าว
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจ้าของอาคารพาณิชย์และโรงงานอุตสาหกรรมได้เริ่มมีการลงทุนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาเพื่อใช้ภายในอาคารของตนเอง ซึ่งสามารถลดค่าไฟฟ้า เป็นการใช้พลังงานสะอาด และช่วยลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ประสงค์จะติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคายังคงขาดแหล่งข้อมูลในการพัฒนาโครงการด้านพลังงานแสงอาทิตย์
“จากการทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้บริโภคหรือผู้ใช้ไฟฟ้า ผู้พัฒนาโครงการ และนักลงทุนในตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ทำให้ GIZ ได้ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการกระตุ้นตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา โดย GIZ ได้ร่วมมือกับ USAID จัดทำคู่มือแนวทางในการพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา ซึ่งนำเสนอขั้นตอนแต่ละขั้นแบบง่ายๆ ในการที่จะลงทุนและพัฒนาโครงการฯ โดยมีเป้าหมายว่าคู่มือนี้จะเป็นคู่มือต้นแบบของแนวทางประกอบการพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย และสามารถนำเสนอรูปแบบการพัฒนาโครงการที่มีศักยภาพ ซึ่งสามารถเปิดตลาดใหม่ของพลังงานแสงอาทิตย์ได้ในอนาคต” โทมัส โครเมทซ์กา ผู้อำนวยการแผนการพลังงาน GIZ ประเทศไทย กล่าว
ส่วนแบ่งการตลาดพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับการผลิตพลังงานกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากภาคอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมต่างผลักดันการพัฒนานี้มากขึ้น ปัจจุบันพลังงานแสงอาทิตย์กลายเป็นอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันและเป็นผู้นำทางสู่อนาคตด้านพลังงานสะอาดของประเทศไทย “ตอนนี้เรากำลังใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อลดต้นทุนการผลิต ตอนนี้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์คุ้มค่าแล้วกับการลงทุน“ นายไพรัตน์ เอื้อชูยศ ประธานกรรมการบริษัทสตาร์ (ประเทศไทย) จำกัดและรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าว
สามารถโหลดคู่มือได้ที่ http://usaidcleanpowerasia.aseanenergy.org/resource/renewable-energy-guidelines-on-solar-pv-rooftop-implementation-thailand/