หน่วยงานรัฐเร่งสร้างความสามารถในการวางผังเมืองที่ยืดหยุ่น
เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่ในประเทศไทย เราได้เห็นและได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์เช่นนี้มาหลายเหตุการณ์ เช่น อุทกภัยครั้งใหญ่ใน 14 จังหวัดในภาคใต้ น้ำท่วมใน 65 จังหวัดในปีพ.ศ. 2554 ภัยแล้งรุนแรงใน 30 จังหวัด เหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตของประชาชนและภาคเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศเหล่านี้ มีความอันตรายและส่งผลกระทบที่รุนแรงและบ่อยครั้งขึ้น
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเกิดขึ้นโดยไม่เลือกอาณาเขต ไม่ว่าจะเป็นเมืองหรือชนบทจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเมืองที่มีความเสี่ยงสูง ประชากรในพื้นที่ก็จะได้รับผลกระทบมากขึ้น ฉะนั้นพื้นที่แต่ละพื้นที่จะต้องสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อปกป้องผู้อยู่อาศัย รวมทั้งเศรษฐกิจ
วิสัยทัศน์และการสร้างพื้นฐาน
เพื่อเป็นการรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้ ในวันที่ 12-13 มีนาคม พ.ศ. 2562 สถาบันพัฒนาบุคลากรด้านการพัฒนาเมือง สำนักผังเมืองรวม กรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน ได้ร่วมกันจัดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การวางผังเมืองรวมเมือง/ชุมชน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน และสนับสนุนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ให้กับนักผังเมืองจากทุกภูมิภาคของประเทศไทยทั้งหมด 130 ท่าน เพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของนักผังและการวางผังเมือง ที่สามารถบรรเทาผลกระทบ และเพิ่มความยืดหยุ่นของชุมชนเมือง เพื่อการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ทั้งนี้ผู้จัดการประชุมฯ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยชตุทท์การ์ท มหาวิทยาลัยเทคนิคดอร์ทมุนด์ และศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์เมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาให้ข้อมูลและนำเสนอผลการวิจัย ผ่านกรณีศึกษาของประเทศไทยและเยอรมนี
นางอัญชลี ริ้วธงชัย ผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาบุคลากรด้านการพัฒนาเมือง กล่าวว่า “กรมโยธาธิการและผังเมือง มีเป้าหมายพัฒนาความเชื่อมโยงศูนย์กลางเมืองระดับต่าง ๆ ในพื้นที่อำเภอ การวางผังเมืองรวมที่กำหนดตำแหน่งสำหรับรวมกลุ่มอุตสาหกรรม การอยู่อาศัย การค้า การบริการทางสังคม สุขภาพ และการศึกษา เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการวางผังที่สร้างการเติบโต และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ สังคม และบริการสาธารณะของประชากรในเขตเมือง ขอบเมือง และพื้นที่ชนบท เพื่อให้เมืองเกิดสมดุลของระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อม คงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของชุมชน ลดการสูญเสียจากภัยพิบัติ”
“การวางผังเมืองมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ ทั้งในด้านการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การพัฒนา กฎระเบียบการวางแผนล่าสุด และความพยายามในการปรับปรุงการวางผังเมืองในประเทศไทยนั้นเป็นโอกาสที่ดีที่จะนำบทบาทของการวางผังเมืองเข้าไปในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศและสร้างความยืดหยุ่นให้กับเมือง เราตัดสินใจที่จะใช้แผนที่ให้ผลในระยะยาวและกำหนดกรอบการทำงานให้กับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ในสังคมและเศรษฐกิจของเรา” มร. ไฮน์ริช กูเดนุส ผู้อำนวยการโครงการสนับสนุนการจัดทำแผนการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในมิติการจัดการความเสี่ยง ขององค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน ประจำประเทศไทยกล่าว
ปัจจัยที่สำคัญ
ความท้าทายใหม่ของกระบวนการวางผังเมืองในอนาคตนั้นจะต้องพิจารณาทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม ในขณะเดียวกันเราต้องจัดการกับ การลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อหลีกเลี่ยงและลดผลกระทบระยะยาวต่อการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์
นักผังเมืองได้ร่วมกันระบุและวิเคราะห์ภัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีผลกระทบต่อแต่ละภูมิภาคของประเทศไทย เช่น น้ำท่วมจากแม่น้ำทั้งในเขตเมือง และนอกเขตเมือง น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม ไฟป่า การกัดเซาะชายฝั่ง พายุฝนฟ้าคะนอง อุณหภูมิเฉลี่ยที่สูงขึ้น เป็นต้น ผู้เข้าร่วมการประชุมยังได้อภิปรายในเรื่องปัจจัยสำคัญที่ควรนำมาพิจารณาการวางแผนเชิงพื้นที่ที่ช่วยลดความเสี่ยงและปัจจัยที่เสริมสร้างให้เกิดภูมิคุ้มกัน ได้แก่
- การปกป้องพื้นที่เปิดโล่งและการปกป้องสิ่งแวดล้อม
- การควบคุมการพัฒนาในพื้นที่เสี่ยงภัย
- มาตรฐานความปลอดภัยของการพัฒนาเมืองในพื้นที่เสี่ยงภัย
- การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาความเป็นอยู่อย่างยั่งยืน
ผลการอภิปรายจากนักผังเมืองในแต่ละภูมิภาค ประกอบด้วยการวางผังที่โล่งและพื้นที่สีเขียวสำหรับการจัดเก็บ การระบายน้ำท่วม หรือเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ โรงพยาบาล หรือบริการฉุกเฉินที่ต้องตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เสี่ยงภัย และสามารถเข้าถึงได้โดยทุกกลุ่มคน การวางแผนถนนสายใหม่เพื่อลดผลกระทบจากภัยพิบัติ เส้นทางการอพยพ การรวมกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ฯลฯ ถูกนำไปพิจารณาในกระบวนการวางแผน และที่สำคัญกลุ่มนักวางผังจากแต่ละภูมิภาคได้ระดมความคิดในประเด็นเรื่องความร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อผลักดันการดำเนินงานให้ประสบความสำเร็จ
การดำเนินการขั้นต่อไป
ความรู้และผลที่ได้จากการประชุมเชิงปฏิบัติการและการฝึกอบรมนี้ จะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาร่างการวางผังเมืองรวมระดับอำเภอ นำไปกำหนดบทบาทและหน้าที่ตามศักยภาพของพื้นที่ พร้อมทั้งประเด็นเรื่องการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะถูกนำเข้ามาวางแผน ซึ่งจะช่วยเร่งกระบวนการวางแผนเชิงพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ร่างผังเมืองจะแล้วเสร็จภายในปลายปี พ.ศ. 2562 ก่อนที่จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายของประเทศต่อไป