ประเทศไทยกำลังมีบทบาทสำคัญในการเป็นตัวแทนผลประโยชน์และการเชื่อมต่อความพยายามของกลุ่มจี 77 (กลุ่มพันธมิตรของประเทศกำลังพัฒนา หรือ G-77) และประเทศจีนไปยังกลุ่มการเจรจาด้านสภาพภูมิอากาศหลากหลายกลุ่มทั้งในประเทศกำลังพัฒนาและประเทศพัฒนาแล้ว จึงถือเป็นโอกาสดีและเป็นความท้าทายสำหรับประเทศไทยที่จะประสานงานกับ 135 ประเทศในประเด็นต่างๆ ภายใต้กรอบการเจรจาอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC)
ในการนี้ GIZ และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การเจรจาและการแก้ปัญหาความขัดแย้ง” เมื่อวันที่ 25-27 กรกฎาคม 2559 ที่กรุงเทพฯ
การอบรมเชิงปฏิบัติการซึ่งมี สผ. ผู้ดำเนินงานหลัก และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในไทยเข้าร่วม มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างทักษะในการเจรจาต่อรองและความเข้าใจแนวทางการทูตเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในบริบทของ UNFCCC และเพื่อระบุพิธีสาร ข้อตกลง รวมทั้งพันธสัญญาที่เกี่ยวข้องและท่าทีการเจรจา นอกจากนี้ การอบรมยังประเมินประเด็นสำคัญของการเจรจาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระหว่างประเทศที่ดำเนินอยู่และพัฒนาการในช่วงการเจรจาและการประชุมที่ผ่านมา
การอบรมครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ดร. เอเดรียน เมซี อดีตเอกอัครราชทูตประจำสาธารณรัฐฝรั่งเศสและแอลจีเรียและอดีตประธานพิธีสารเกียวโตของสหประชาชาติ และดร. วันชัย วัฒนศัพท์ ผู้จัดตั้งศูนย์ และต่อมากลายเป็นสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า (KPI) ซึ่งเป็นคลังสมองสำหรับสมาชิกรัฐสภา และ RUC School of Leadership and Just Peace Development มาร่วมให้ข้อมูลเชิงลึกและแบ่งปันความรู้ความเชี่ยวชาญระหว่างการอบรมเชิงปฏิบัติการ
หัวข้อที่เป็นประเด็นหลักในการอภิปรายและเป็นแบบฝึกหัด ได้แก่ ความโปร่งใสของความตกลงปารีส วิธีการดำเนินการ และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนประเด็นสำคัญและความท้าทายของประเทศไทยในการเจรจาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศทั้งในแง่การรักษาผลประโยชน์ของชาติและในแง่การรับบทบาทของประธานกลุ่มจี 77 ซึ่งมีบทบาทนำในการเจรจาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยจะระบุโซนที่สามารถตกลงกันได้ (ZOPA) และตระหนักรู้ทางเลือกที่ดีที่สุดหากไม่มีข้อตกลง (BATNA) และการสื่อสาร รวมถึงภาษาในการเจรจา
“การอบรมเชิงปฏิบัติการช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถระบุจุดอ่อนที่เกี่ยวข้องกับทักษะการเจรจาของตน พร้อมชี้แนะหนทางในการปรับปรุงให้ดีขึ้น ผู้เชี่ยวชาญมากด้วยประสบการณ์ในการเจรจา ซึ่งรวมถึงการเจรจาด้านสภาพภูมิอากาศ และมีเทคนิคที่น่าสนใจในการดึงดูดความสนใจของผู้เข้าร่วม” ผู้เข้าร่วมท่านหนึ่งตั้งข้อสังเกต
|
การอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การเจรจาและการแก้ปัญหาความขัดแย้ง” สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานของผู้เข้าร่วมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 22 (COP22) ซึ่งกำลังจะมีขึ้นที่เมืองมาราเกช ประเทศโมร็อกโกในเดือนพฤศจิกายน 2559 การประชุมดังกล่าวเป็นการเน้นย้ำความสำคัญของการเตรียมการของรัฐบาลไทยที่จะเข้าเป็นภาคีความตกลงปารีส โดยประเทศไทยได้มอบสัตยาบันสารความตกลงปารีสและเอกสารที่จำเป็นต่อ UNFCCC ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา