เมแทบอลิซึมของเมือง
การประชุมเชิงปฏิบัติการ Nexus ระดับภูมิภาค ครั้งที่ 6 ซึ่งจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน 2559 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ถือเป็น การเปิดตัวสำหรับโครงการ Urban Nexus ระยะที่สอง ซึ่งดำเนินการ โดย GIZ ร่วมกับ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชีย และแปซิฟิก (UNESCAP) และรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาอย่าง ยั่งยืน (ICLEI) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมืองซานตาโรซา หนึ่งในเมืองพันธมิตรของโครงการ Nexus เป็น เจ้าภาพจัดประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 120 คน จากทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อาร์ลีน อาร์ซิลลาส์ นายกเทศมนตรี เมืองซานตาโรซาที่กำลังจะครบวาระ เป็นเจ้าภาพการประชุมเชิง ปฏิบัติการ โดยมีนายกเทศมนตรีบองกาทแห่งเมืองนากา ซึ่งเป็น เมืองพันธมิตรของโครงการ Nexus ในประเทศฟิลิปปินส์ รองนายก เทศมนตรีสองท่านจากเชียงใหม่และนครราชสีมาของประเทศไทย พร้อมด้วยผู้จัดการทั่วไปจากเมืองอูลานบาตอร์ เข้าร่วมด้วย
ผู้เข้าร่วม 120 คนจากระดับท้องถิ่นและระดับชาติ จากภาควิชาการ และองค์กรเครือข่ายจากประเทศฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย พร้อมทั้งจากเครือข่ายเมือง เช่น ICLEI ประจำภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ และ CITYNET ได้มีส่วนร่วมในการหารือประเด็น ของขอบเขตอำนาจที่ได้รับมอบหมาย (mandates) ในกรอบการ บูรณาการแนวตั้งและแนวนอน โดย รูธ เอิร์ลเบค โครงการบริหารทรัพยากรแบบบูรณาการของเมืองในเอเซีย เมแทบอลิซึมของเมือง
วันแรกของการประชุมเชิงปฏิบัติการ ยกให้เป็นวันของการรายงาน กิจกรรมและผลลัพท์ต่างๆ ของโครงการฯ ที่เกิดขึ้นในประเทศ ฟิลิปปินส์ ซึ่งฟิลิปปินส์กำลังอยู่ในช่วงรอยต่อที่รัฐบาลใหม่จะเข้ามา รับหน้าที่ และวันแรกของการประชุมจะโยงกิจกรรมของโครงการฯ เข้ากับวาระการประชุมระหว่างประเทศต่างๆ อาทิ วาระการพัฒนาที่ ยั่งยืน ค.ศ. 2030 การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญา UNFCCC สมัยที่ 21 หรือ COP 21 และวาระใหม่ว่าด้วยเมืองสำหรับการประชุม Habitat III ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงกีโตในเดือนตุลาคม 2559 ซึ่งประเทศฟิลิปปินส์ จะเป็นหนึ่งในผู้นำในการนำนโยบายจากการประชุมเหล่านี้มาใช้ใน การพัฒนาประเทศ
วันที่สองเน้นไปที่การวิเคราะห์ผลสำเร็จของโครงการ Urban Nexus บทเรียน และการวางแผนสำหรับระยะต่อไป มีการระบุไว้ชัดเจน ว่าการวางผังเมืองแบบบูรณาการได้กลายเป็นคุณสมบัติอันโดดเด่น ในการพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานใหม่ในเมืองพันธมิตรของ Nexus คณะทำงานเฉพาะกิจของ Nexus ทำหน้าที่เป็น “คลังสมอง” เพื่อส่งเสริม “วิธีการคิดแบบอื่น” โดยเดินหน้าจากเศรษฐกิจเชิงเส้น สู่แนวคิดเศรษฐกิจวงรอบ
เศรษฐกิจวงรอบในฐานะเครื่องมือในการขับเคลื่อนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030
ในฐานะที่เป็นหลักการพื้นฐานภายใต้เศรษฐกิจเชิงเส้น “การจัดหา การผลิต การทิ้ง” เริ่มจะตามเทคนิคสมัยใหม่ไม่ทันเสียแล้ว โดยเฉพาะ ในสภาวะที่ความขาดแคลนทรัพยากรทางธรรมชาติ อาทิ น้ำ พลังงาน และอาหารเพิ่มมากขึ้น “การจัดหา การสร้าง และการนำกลับมาใช้ ใหม่/เอากลับคืน” จึงกลายเป็นวิธีคิดใหม่และสะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักในเรื่องการแยกพลังงานออกจากการไหลเชิงมวล การแยกน้ำเสีย ออกเป็นน้ำเสียสีเทาและน้ำเสียสีดำ ทำให้สามารถดึงศักยภาพที่มีอยู่ในน้ำเสียสีเทาและสีดำออกมาใช้ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดการบำบัด และนำกลับมาใช้ใหม่ในสภาพของน้ำอุปโภคบริโภคและน้ำชลประทาน พลังงาน และกากตะกอนที่ใช้เป็นปุ๋ย นวัตกรรมทางเทคโนโลยี อาทิ เทคโนโลยีผลตอบแทนสูงสุด (Maximum Yield Technology หรือ MYT) ทำให้เกิดการรีไซเคิลของขยะมูลฝอยซึ่งโดยหลักประกอบด้วยส่วน ประกอบที่เป็นน้ำ เชื้อเพลิงที่ไม่ใช่ฟอสซิล แร่ธาตุ และโลหะ ซึ่งนำมาเติมเป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตได้อีก
แนวทางเศรษฐกิจวงรอบมีผู้สนใจติดตามมากและมีการอภิปรายในเรื่องดังกล่าวอย่างเข้มข้น แนวทางดังกล่าวยังสอดคล้องกับการดำเนินการ ตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ด้วย ซึ่งเสนอแนวคิดเกี่ยวกับวิธีการที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) แบบครบวงจร
ให้โอกาสเมืองได้ส่งเสียง – สร้างพลังให้เมือง
การสนับสนุน “ให้โอกาสเมืองได้ส่งเสียง” ซึ่งทำให้เมืองเป็น “ผู้มีบทบาทหลักของการเปลี่ยนแปลง” ในการที่จะบรรลุตาม วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 เป้าหมายของการประชุม COP 21 รวมทั้งเป้าหมายของวาระใหม่ว่าด้วยเมือง เป็นวัตถุประสงค์ หลักอีกประการหนึ่งของความร่วมมือระหว่างพันธมิตรของ Nexus เมืองจะมีความสำคัญในระดับแนวหน้าในการจัดทำข้อตกลง ระหว่างประเทศที่ประชาคมนานาชาติมีพันธสัญญาอยู่ เมืองต้องเสริมสร้างขีดความสามารถทางการเงิน เริ่มจากการจัดเก็บ ภาษีที่พึงได้ นอกจากนี้ เมืองจำเป็นต้องมีทรัพยากรทางการเงินใน ระยะยาวที่เชื่อถือได้และต้องสามารถเข้าถึงเงินทุน รวมถึงเงินทุน จากแหล่งทุนระหว่างประเทศด้วย
การประชุมเชิงปฏิบัติการสิ้นสุดลงด้วย “พิธีวางศิลาฤกษ์” ร่วมกับ นายกเทศมนตรีอาร์ลีน อาร์ซิลลาส์ ในโครงการที่อยู่อาศัยราคา ย่อมเยา ซึ่งจะดำเนินการในเมืองซานตาโรซาให้กับ 162 ครัวเรือน ที่ตั้งถิ่นฐานอย่างไม่เป็นทางการ และ 168 ครอบครัวในกลุ่ม ประชากรเมืองรายได้ต่ำ โครงการดังกล่าวครอบคลุมถึงเทคโนโลยี ที่อยู่อาศัยต้นทุนต่ำที่มีประสิทธิภาพเชิงต้นทุน การออกแบบที่พัฒนา ให้เหมาะสมกับเมืองมากขึ้น รวมทั้งแผนโครงสร้างพื้นฐานของเมืองที่ เป็นนวัตกรรม โดยร่วมมือกับโครงการ Urban Nexus และภาคเอกชน
รูธ เอิร์ลเบค
Email:ruth.erlbeck(at)giz.de