พันธมิตร MA-RE-DESIGN รวมพลังทบทวนความก้าวหน้าและวางแผนความยั่งยืนประจำปี

(จากซ้าย) มาเฮช ปราดหาน จากโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ องค์กรประสานงานทางทะเลแห่งเอเชียตะวันออก (UNEP COBSEA), อัลวาโร่ ซูริต้า ผู้อำนวยการโครงการ MA-RE-DESIGN, GIZ ประจำประเทศไทย, ณัฐวัส ศศิธร จาก Lay Trang Diving, ศรีธยา ฤทธิ์ช่วยรอด จากเทศบาลนครตรัง, ทวีชัย เจียรนัยขจร ผู้อำนวยการส่วนลดและใช้ประโยชน์ของเสีย กรมควบคุมมลพิษ (คพ.), สุมนา ขจรวัฒนากุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.), อรพิมพ์ คฤหนันท์ รองนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลเกาะเต่า, รำลึก อัศวชิน นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะเต่า, ทานย่า โพลเอ็ทซ์ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ประจำสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
เกือบสองปีที่โครงการป้องกันขยะทะเลผ่านการลด การออกแบบอย่างยั่งยืน และการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์พลาสติก (MA-RE-DESIGN) ซึ่งดำเนินการโดย GIZ ประจำประเทศไทย ได้มุ่งมั่นเชื่อมโยงความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย โดยนับตั้งแต่เริ่มโครงการ ภาพที่ฝันไว้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างจากการร่วมมือทำงานของหน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชน และผู้ขับเคลื่อนจากภาคประชาสังคม
ก้าวเข้าสู่ปีสุดท้ายของการดำเนินงาน โครงการจึงจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการวางแผนประจำปี เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ที่โรงแรมนิกโก้ กรุงเทพฯ นอกจากเพื่อสรุปความก้าวหน้า และเปิดโอกาสให้พันธมิตรของโครงการจากทุกภาคส่วนได้หยุดพัก ทบทวน และร่วมกันวางเส้นทางต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้จะสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อไปอย่างยั่งยืนแม้โครงการจะสิ้นสุดลง


เดินหน้าสู่อนาคตเพื่อความยั่งยืนของ MA-RE-DESIGN
การประชุมครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการทบทวนผลลัพธ์ปีที่ 2 และวางแผนปีที่ 3 โดยเชื่อมโยงวิสัยทัศน์กับแนวทางปฏิบัติจริง พร้อมออกแบบกลยุทธ์ความยั่งยืนให้พันธมิตรสามารถสานต่อได้หลังโครงการสิ้นสุดเดือนกันยายน พ.ศ. 2569 เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระยะยาว การประชุมมีผู้แทนจาก กรมควบคุมมลพิษ (คพ.), กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.), สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม (TIPMSE) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.), นักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ และองค์กรภาคประชาสังคมอย่างมูลนิธิ 3R องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) และ GIZ ประจำประเทศไทย ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง เป้าหมายและผลลัพธ์หลักประกอบด้วย:


เป้าหมาย: การป้องกันพลาสติกใช้ครั้งเดียว – สนับสนุนการออกแบบบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน
ผู้เข้าร่วมประชุมสรุปบทเรียนปีที่ผ่านมาและเสนอการดำเนินงานต่อไป ได้แก่
- จัดทำคู่มือบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนและใช้เครื่องมือดิจิทัลสื่อสารกับนักออกแบบบรรจุภัณฑ์รุ่นใหม่
- บูรณาการหลักการ Eco-Design ในหลักสูตรมหาวิทยาลัย ร่วมพัฒนาหลักสูตรและเสริมสร้างทักษะให้นิสิต นักศึกษา
- เริ่มหารือความเป็นไปได้ในการจัดตั้งหน่วยงานรับรองบรรจุภัณฑ์ระดับประเทศ เพื่อรองรับระบบ EPR

เป้าหมาย: การขับเคลื่อนภาคท่องเที่ยว
WWF เยอรมนีและประเทศไทยร่วมกับธุรกิจการท่องเที่ยวบนเกาะเต่าและตรัง จัดทำแผนการดำเนินการลดขยะพลาสติก (ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2568 ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2569) โดยเน้น 6 แนวทางหลัก เช่น มาตรการส่งเสริมการเติมสินค้าในบรรจุภัณฑ์เดิมและใช้ซ้ำบรรจุภัณฑ์ แนวทางการจัดการอาหารและเครื่องดื่มอย่างยั่งยืน การจัดการขยะ การสร้างศักยภาพผู้ประกอบการ กิจกรรมทำความสะอาด และการมีส่วนร่วมของผู้ผลิต


เป้าหมาย: การพัฒนานโยบายและระบบหลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (EPR)
หารือแผนปฏิบัติการ เช่น แนวทางคำนวณค่าธรรมเนียม EPR และข้อเสนอรูปแบบโครงสร้างขององค์กรความรับผิดชอบของผู้ผลิต (องค์กรผู้แทน PRO) โดยมี คพ., TIPMSE และมหาวิทยาลัยหลักร่วมพัฒนา เป้าหมายคือโมเดลที่เหมาะสมกับบริบทไทย ใช้ได้ทั้งระยะสั้นและยาว พร้อมแนวทางสื่อสารระดับชาติ การฝึกอบรมแบบ “train-the-trainer” และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์

เป้าหมาย: ลดมลพิษพลาสติกในเทศบาลนำร่อง
นำโดย WWF ภายใต้แนวทาง Plastic Smart Cities ในเกาะเต่าและตรัง เพื่อเสริมศักยภาพท้องถิ่นในการลดการรั่วไหลของขยะพลาสติก (ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2568 ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2569) กิจกรรมหลัก ได้แก่:
- บูรณาการ Plastic Smart City Action Plan เข้าสู่แผนท้องถิ่น
- ขยายความร่วมมือธุรกิจมากกว่า 30 ราย และโครงการเชิดชูเกียรติ
- ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และแรงงานนอกระบบ พร้อมทดสอบนวัตกรรม เช่น แอปพลิเคชันติดตามพลาสติก
- จัดกิจกรรมรณรงค์ใหญ่ เช่น World Oceans Day และ World Cleanup Day
- วิเคราะห์การรั่วไหลของขยะ และจัดทำกระดานติดตามผลระดับเมือง


เป้าหมาย: การแลกเปลี่ยนความรู้ระดับภูมิภาค และการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันขยะทะเลในระดับภูมิภาคเพิ่มขึ้นใน 9 ประเทศสมาชิกของ COBSEA
โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ: องค์กรประสานงานทางทะเลแห่งเอเชียตะวันออก (UNEP COBSEA) เป็นเวทีระหว่างรัฐบาล ได้พัฒนากรณีศึกษา 4 ฉบับ แนวทางโรงเรียนปลอดพลาสติก และฝึกอบรมติดตามขยะทะเล (เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 ถึง เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2568) กิจกรรมสำคัญรวมถึง SEA of Solutions 2024, INC-5 และ Our Ocean 2025 สำหรับเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2568 ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2569 จะมีการจัดทำกรณีศึกษาเพิ่ม พัฒนาศูนย์ข้อมูล COBSEA และเผยแพร่ผลลัพธ์ผ่าน SEA of Solutions 2025 การประชุมอาเซียน/COBSEA และการประชุม IGM-27


บทเรียนสำคัญจากการประชุมเชิงปฏิบัติการ: การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเกิดจากการประสานความเชี่ยวชาญที่หลากหลายสู่เป้าหมายร่วม ไม่ใช่ความพยายามฝ่ายเดียว ยุทธศาสตร์ปีที่ 3 และกรอบความยั่งยืนแสดงให้เห็นว่า อำนาจกำกับดูแลของภาครัฐ นวัตกรรมของภาคอุตสาหกรรม และการขับเคลื่อนของภาคประชาสังคม สามารถผสานเป็นพลังการเปลี่ยนแปลงถาวรได้ ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2569 การมีส่วนร่วมของแต่ละฝ่ายจะเสริมพลังซึ่งกันและกัน เพื่อนำวิสัยทัศน์ร่วมในการลดขยะทะเลให้กลายเป็นมรดกด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนของไทย
ข้อมูลโครงการ MA-RE-DESIGN
โครงการการลดการใช้ การออกแบบที่ยั่งยืน และการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์พลาสติกเพื่อป้องกันขยะในทะเล (MA-RE-DESIGN) มีเป้าหมายในการพัฒนามาตรการและเสริมสร้างศักยภาพการป้องกันการรั่วไหลของขยะพลาสติกลงสู่ทะเลของประเทศไทย โครงการฯ ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสิ่งแวดล้อม การดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์ธรรมชาติ และความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ (BMUKN) สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ดำเนินงานโดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ประจำประเทศไทย และกลุ่มประสานความร่วมมือทางทะเลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกโดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP COBSEA) ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษในฐานะพันธมิตรโครงการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ MA-RE-DESIGN ได้ที่ https://www.thai-german-cooperation.info/th/marine-litter-prevention-through-reduction-sustainable-design-and-recycling-of-plastic-packaging-ma-re-design/
อัลบั้มภาพ
Gallery Photos: Selected Photos for Article









