MA-RE-DESIGN จัดประชุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ถกแนวทางคำนวณค่าบริการ EPR เพื่อการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน

กลุ่มการประชุมเชิงปฏิบัติการกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ครั้งที่ 2: การพัฒนาแนวทางการกำหนดค่าบริการ ตามหลักการความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นของผู้ผลิต (EPR Fee) สำหรับประเทศไทย
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 โครงการการลดการใช้ การออกแบบที่ยั่งยืน และการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์พลาสติกเพื่อป้องกันขยะในทะเล (MA-RE-DESIGN) ที่ดำเนินงานโดย GIZ ประจำประเทศไทย ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับหลักการความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility: EPR) ร่วมกับสถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ โรงแรมนิกโก้ กรุงเทพฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดการบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนในประเทศไทยในเรื่องการกำหนดแนวทางการคำนวณค่าบริการตามหลัก EPR (EPR fee) และเครื่องมือการคำนวณ

คุณทวีชัย เจียรนัยขจร ผู้อำนวยการส่วนลดและใช้ประโยชน์ของเสีย กองจัดการกากของเสียและสารอันตราย คพ. กล่าวถึงกรอบความร่วมมือระหว่าง คพ. และ GIZ ประจำประเทศไทย และความคืบหน้าของร่าง พ.ร.บ. การจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน
การประชุมนี้ได้รับเกียรติจากคุณทวีชัย เจียรนัยขจร ผู้อำนวยการส่วนลดและใช้ประโยชน์ของเสีย กองจัดการกากของเสียและสารอันตราย คพ. ที่ได้กล่าวถึงกรอบความร่วมมือระหว่าง คพ. และ GIZ ประเทศไทย ในการดำเนินงานด้านการจัดการบรรจุภัณฑ์โดยเฉพาะพลาสติก และกรมฯ จะนำข้อเสนอการกำหนดค่าบริการ EPR ไปพิจารณาต่อไป หลังจากนั้น คุณอัลวาโร่ ซูริต้า ผู้อำนวยการโครงการ MA-RE-DESIGN กล่าวถึงที่มาของโครงการ ความสำคัญของการศึกษาดังกล่าวต่อการขับเคลื่อนงานของทาง คพ. และกล่าวขอบคุณผู้ร่วมงานทุกท่านสำหรับการเข้าร่วมประชุมในวันนี้

คุณอัลวาโร่ ซูริต้า ผู้อำนวยการโครงการ MA-RE-DESIGN พูดเกี่ยวกับโครงการฯ ในภาพรวมและความสำคัญของความร่วมมือร่วมจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อทำให้เกิด EPR ในประเทศไทย
“หลักการความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นของผู้ผลิต” (Extended Producer Responsibility: EPR) เป็นหลักการเชิงนโยบายที่มุ่งส่งเสริมการปรับปรุงด้านสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ โดยการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิตไปยังส่วนต่างๆ ของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในการรับคืน การรีไซเคิลและการจัดการผลิตภัณฑ์เมื่อสิ้นสุดการใช้งาน

หลักการความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นของผู้ผลิต (EPR) สำหรับบรรจุภัณฑ์; ที่มา: สถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 60 คน จากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรภาคประชาสังคม และสถาบันการศึกษา โดยร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) แนวทางการกำหนดค่าบริการ EPR ทั้งในระดับประเทศและกรณีศึกษาบนเกาะเต่า รวมถึง (ร่าง) สูตรการคำนวณค่าบริการจัดทำโดย ผศ.ดร.ปเนต มโนมัยวิบูลย์ ที่ปรึกษาโครงการ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

ดร.ปเนต มโนมัยวิบูลย์ ที่ปรึกษาโครงการนำเสนอความก้าวหน้าการศึกษาแนวทางการกำหนดค่าบริการ EPR
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมระดมความคิดเห็นในรูปแบบกลุ่มย่อย โดยแบ่งตามประเภทของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ผู้เข้าร่วมมีความเชี่ยวชาญ ได้แก่ พลาสติก แก้ว กระดาษ และโลหะ เพื่อทดลองใช้สูตรคำนวณและร่วมกันเสนอข้อคิดเห็นเชิงเทคนิคและนโยบาย ในช่วงท้ายของกิจกรรม แต่ละกลุ่มได้สรุปและนำเสนอผลการอภิปรายต่อที่ประชุม ทำให้เห็นถึงข้อเสนอที่หลากหลายและสะท้อนถึงลักษณะเฉพาะของวัสดุบรรจุภัณฑ์แต่ละประเภทอย่างชัดเจน

ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่การจัดการบรรจุภัณฑ์ร่วมกิจกรรมการคำนวณค่าบริการ EPR
การได้แลกเปลี่ยนและพูดคุย วิเคราะห์ทั้งหลักการคำนวณ EPR และมูลค่าที่แตกต่างของบรรจุภัณฑ์แต่ละประเภท ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทั้งระบบในการประชุมครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาฐานข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลปริมาณการใช้วัสดุในระบบ หรือการกำหนดเป้าหมายในการดำเนินงานที่ชัดเจน ทางโครงการ MA-RE-DESIGN จะนำข้อมูลและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการประชุมไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและปรับปรุงสูตรการคำนวณค่าบริการ EPR ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย และสนับสนุนการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการจัดการบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินงานของ คพ. ต่อไป
เกี่ยวกับโครงการ MA-RE-DESIGN
โครงการการลดการใช้ การออกแบบที่ยั่งยืน และการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์พลาสติกเพื่อป้องกันขยะในทะเล (MA-RE-DESIGN) มีเป้าหมายในการพัฒนามาตรการและเสริมสร้างศักยภาพการป้องกันการรั่วไหลของขยะพลาสติกลงสู่ทะเลของประเทศไทย โครงการฯ ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสิ่งแวดล้อม การดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์ธรรมชาติ และความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ (BMUKN) สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ดำเนินงานโดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ประจำประเทศไทย และกลุ่มประสานความร่วมมือทางทะเลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกโดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP COBSEA) ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษในฐานะพันธมิตรโครงการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ MA-RE-DESIGN ได้ที่ https://www.thai-german-cooperation.info/th/marine-litter-prevention-through-reduction-sustainable-design-and-recycling-of-plastic-packaging-ma-re-design/





