GGC-GIZ ร่วมประกาศความสำเร็จการผลิตน้ำมันปาล์มยั่งยืน
กิจกรรมภาคบ่าย เยี่ยมชมสวนปาล์มน้ำมันที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO
- บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC และ GIZ รวมทั้งโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มและกลุ่มเกษตรกรรายย่อย ร่วมกันประกาศความสำเร็จในการยกระดับมาตรฐานการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน
- มีการนำเสนอข้อมูลความสำเร็จของโครงการฯ ในหัวข้อ “เส้นทางความสำเร็จของการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน” จากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตและรับซื้อ ทั้งเกษตรกรรายย่อยผู้ผลิตปาล์มน้ำมันที่ได้รับการรับรองจาก RSPO ประเทศไทย ไปจนถึงโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน และ GGC
- โครงการ SPOPP เชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐ บริษัทเอกชน และกลุ่มเกษตรกรรายย่อย ให้คำนึงถึงความสำคัญของการเสริมสร้างศักยภาพ ผ่านการฝึกอบรมเกษตรกรรายย่อยหลักสูตร TOPSA และการใช้แอป i-Palm เพื่อจัดการฐานข้อมูลสวน
พังงา 30 พฤษภาคม 2567 – บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ ของเยอรมัน (GIZ) รวมทั้งโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มและกลุ่มเกษตรกรรายย่อย ร่วมกันประกาศความสำเร็จในการยกระดับ มาตรฐานการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน
พิธีฉลองความสำเร็จของโครงการการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน (Sustainable Palm Oil Production and Procurement หรือ SPOPP) จัดขึ้น ณ โรงแรมอวานีพลัส เขาหลัก จังหวัดพังงา โดยมีผู้แทนจาก GGC และ GIZ รวมทั้งองค์กรเจรจาระหว่างประเทศว่าด้วยปาล์มน้ำมันยั่งยืน หรือ RSPO ประเทศไทย กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มและกลุ่มเกษตรกรรายย่อยที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 60 ท่านเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน โดยภายในงานมีการนำเสนอข้อมูลความสำเร็จของโครงการฯ ในหัวข้อ “เส้นทางความสำเร็จของการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน” จากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตและรับซื้อ ทั้งเกษตรกรรายย่อยผู้ผลิตปาล์มน้ำมันที่ได้รับการรับรองจาก RSPO ประเทศไทย ไปจนถึงโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน และ GGC
คุณกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ GGC ให้เกียรติกล่าวเปิดงานดังนี้ “เรามีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรร่วมกับ GIZ การทำงานร่วมกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทำให้เกิดการยกระดับมาตรฐานการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืนอย่างเป็นระบบ ช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันรายย่อยได้เข้าถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง นำมาสู่การพัฒนาการจัดการสวนปาล์ม จนได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO เสริมศักยภาพให้กับผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มในการแข่งขันและเชื่อมโยงการเข้าถึงตลาดทั้งในระดับประเทศและระดับโลก”
คุณกฤษฎากล่าวเพิ่มเติมว่า GGC และ GIZ รวมทั้งพันธมิตรใน 4 จังหวัดนำร่องได้แก่ ชุมพร กระบี่ ตรัง และพังงา ได้ร่วมบันทึกข้อตกลงยกระดับการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนผ่านโครงการ SPOPP เมื่อปี พ.ศ. 2565 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาขีดความสามารถของเกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกปาล์มน้ำมันในประเทศไทยให้ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล มุ่งยกระดับการผลิตปาล์มน้ำมันที่ยั่งยืนอย่างเป็นระบบ
ในประเทศไทยมีผู้ผลิตวัตถุดิบปาล์มน้ำมันตามมาตรฐาน RSPO ค่อนข้างน้อย เนื่องจากเกษตรกรส่วนมากเป็นเกษตรกรรายย่อยจึงควรมีหน่วยงานที่เข้ามาช่วยให้ความรู้งบประมาณสนับสนุนและเป็นตัวแทนในการผลักดัน ขณะที่ภาครัฐควรมีการส่งเสริมหรือสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ได้ตามมาตรฐานสากลเพื่อยกระดับมาตรฐานพร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มในราคาขายตอบสนองกระแสความต้องการในปัจจุบันและอนาคต
ดร.กนกวรรณ ศาศวัตเตชะ ผู้อำนวยการโครงการ GIZ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการ SPOPP ได้สร้างสะพาน เชื่อมโยงภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ บริษัทเอกชน และกลุ่มเกษตรกรรายย่อยให้คำนึงถึงความสำคัญของการเสริมสร้างศักยภาพผ่านการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการฝึกอบรมเกษตรกรรายย่อยผ่านหลักสูตร “พัฒนาเกษตรกรรายย่อยของไทยในการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน” (Thailand Oil Palm Smallholder Academy) หรือ TOPSA และการสร้างแอปพลิเคชัน i-Palm เพื่อจัดการฐานข้อมูลสวนแบบดิจิทัล
ดร.กนกวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่าโครงการ SPOPP ร่วมมือกับโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม 6 แห่งเพื่อสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรรายย่อยรวมกว่า 1,000 ราย ปัจจุบันกลุ่มเกษตรกรรายย่อยทั้ง 6 กลุ่ม ได้ผ่านการตรวจรับรองมาตรฐาน RSPO ในกลุ่มนี้มี 2 กลุ่มที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO เรียบร้อยแล้ว ความสำเร็จนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ (Crude Palm Oil) 11,047 ตันและน้ำมันเมล็ดใน (Crude Palm Kernel Oil) 1,243 ตันที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตามมาตรฐาน RSPO เข้าสู่ตลาดโลก
ด้านคุณยุทธนา จรุงการ ผู้จัดการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตปาล์มน้ำมัน RSPO – พังงา ในฐานะตัวแทนเกษตรกรสวนปาล์ม น้ำมันกล่าวในเวทีเสวนาว่า “การที่เกษตรกรรายย่อยจะเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเองอาจเป็นเรื่องยากมาก โดยเฉพาะหากไม่มีพี่เลี้ยงและงบประมาณสนับสนุน โครงการ SPOPP ทำให้กลุ่มเรากล้าที่จะเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน โครงการเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงในทุกกระบวนการ ให้คำแนะนำจนกลุ่มของเราได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO ปฏิเสธไม่ได้ว่าทัศนคติที่เปิดกว้างของสมาชิกทุกคนล้วนมีบทบาทสำคัญในการช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับการบริหารจัดการกลุ่ม เราไม่ได้ต้องการหยุดพัฒนาเพียงแค่เพราะได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO แล้วเท่านั้น เรายังมองเห็นโอกาสในการพัฒนาต่อยอดเรื่องตลาดคาร์บอนเครดิตได้อีกในระยะยาว”
อัลบั้มภาพ
ดร.กนกวรรณ ศาศวัตเตชะ
ผู้อำนวยการโครงการ GIZ ประจำประเทศไทย
อีเมล: kanokwan.saswattecha(at)giz.de