เสริมศักยภาพวิศวกรชลประทานด้วยการวิเคราะห์ความเสี่ยงและความเปราะบางจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

GIZ ร่วมกับกรมชลประทาน จัดฝึกอบรมทางวิชาการ ในหัวข้อกระบวนการการวิเคราะห์ความเสี่ยงและความเปราะบางจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (CRVA) เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างบูรณาการภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดต่อทรัพยากรน้ำ ทั้งน้ำท่วม และน้ำแล้ง การบริหารจัดการน้ำด้วยการวิเคราะห์ความเสี่ยงและความเปราะบางจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Risk and Vulnerability Assessment: CRVA) จึงมีส่วนสำคัญอย่างมากในการจัดลำดับความสำคัญ และจัดสรรน้ำอย่างเร่งด่วนให้กับพื้นที่ที่ต้องการได้อย่างเหมาะสม

องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย และกรมชลประทานได้เล็งเห็นถึงผลกระทบเหล่านี้ จึงร่วมจัดฝึกอบรม ในหัวข้อ “กระบวนการการวิเคราะห์ความเสี่ยงและความเปราะบางจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างบูรณาการภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ณ อาคารที่ทำการฝ่ายวิชาการ กรมชลประทาน กรุงเทพมหานคร วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการวิเคราะห์ CRVA และนำมาใช้ในการพัฒนาทักษะด้านการวางแผนลุ่มน้ำ โดยคำนึงถึงมิติภูมิอากาศ รวมถึงขยายผลไปสู่ลุ่มน้ำอื่นๆ โดยมี ดร.กนกวรรณ ศาศวัตเตชะ ผู้จัดการโครงการ กล่าวต้อนรับและแนะนำโครงการ และคุณภัทรภรณ์ เมฆาพฤกษาวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา กรมชลประทาน ได้ให้เกียรติกล่าวเปิดงาน
กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศไทยด้วยการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพและการเกษตรแบบยั่งยืน (Enhancing Climate Resilience in Thailand through Effective Water Management and Sustainable Agriculture: E-WMSA) โดยมีโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme: UNDP) และกรมชลประทานเป็นผู้ดำเนินงาน และได้รับการสนับสนุนทางวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผศ.ดร.พงษ์ศักดิ์ สุทธินนท์ ภาควิชาวิศกรรมแหล่งน้ำ คณะวิศกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเสนอความสำคัญของการวิเคราะห์ประเมินความเสี่ยงและความเปราะบางจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ผศ.ดร.พงษ์ศักดิ์ สุทธินนท์ ภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเสนอที่มาและความสำคัญของการวิเคราะห์ CRVA การออกแบบโครงสร้างการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่ผ่านมาจะใช้ข้อมูลด้านน้ำย้อนหลัง 30 ปี และไม่ได้คำนึงถึงข้อมูลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต ส่งผลให้สิ่งก่อสร้างลักษณะโครงสร้างแข็ง เช่น เขื่อน และ ประตูระบายน้ำ ที่ออกแบบไว้อาจไม่เพียงพอในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นในอนาคต ดังนั้น การเสริมสิ่งก่อสร้างโครงสร้างแข็งด้วยการปรับตัวที่อาศัยระบบนิเวศ (Ecosystem-based Adaptation: EbA) จึงมีความจำเป็น ทั้งนี้ การวิเคราะห์ CRVA เป็นเพียงจุดเริ่มต้นช่วยระบุพื้นที่เสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต
การวิเคราะห์ CRVA ประกอบด้วย 4 มิติ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยอันตราย การเปิดรับต่อความเสี่ยง และความเปราะบาง
นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอ Looker Studio จาก Google ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สามารถนำไปใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เครื่องมือ Looker Studio นี้ช่วยให้วิศวกรชลประทานสามารถวิเคราะห์ CRVA และนำเสนอผลการวิเคราะห์ออกมาเป็นแผนที่พื้นที่เสี่ยงภัย ที่มีค่าระดับความเสี่ยงจากต่ำไปสูงในช่วงระดับ 0-1 ซึ่งช่วยระบุพื้นที่ที่ต้องการการสนับสนุนทรัพยากรเพิ่มเติมหรือแก้ไขปัญหาเร่งด่วน รวมทั้งการระบุมาตรการปรับตัว EbA ที่เหมาะสมในเชิงพื้นที่
เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานด้านน้ำที่เข้าอบรบคุ้นเคยกับเครื่องมือมากขึ้น จึงแบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมอบรมออกเป็น 4 กลุ่มเพื่อทดลองใช้งาน Looker Studio ออกแบบจัดทำแผนที่ CRVA ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่ทางกลุ่มต้องการนำเสนอข้อมูล โดยมี “พี่เลี้ยง” จากกรมชลประทาน ที่เคยเข้าอบรมด้านเทคนิคและการปฏิบัติจริงมาแล้ว เมื่อวันที่ 5-6 มิถุนายน พ.ศ. 2567 โดยเหล่าพี่เลี้ยงได้ให้คำแนะนำแก่ผู้เข้าอบรมแต่ละกลุ่มอย่างใกล้ชิด

ผู้เข้าร่วมอบรมทั้งจากกรมชลประทาน และนิสิตฝึกงานกำลังวางแผนในการจัดทำแผนที่เพื่อนำเสนอ โดยมีพี่เลี้ยงช่วยดูแลแนะนำ
หลังจากเสร็จสิ้นการนำเสนอของแต่ละกลุ่ม ผศ.ดร.พงษ์ศักดิ์ สุทธินนท์ และ คุณพรมงคล ชิดชอบ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมชลประทานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำและจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำสำนักงานชลประทานที่ 2 กรมชลประทาน ได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นและเสนอประเด็นชี้แนะให้กับกลุ่มผู้เข้าร่วมการฝึกอบรม โดยเน้นสิ่งสำคัญในการคัดเลือกข้อมูลและรูปแบบการนำเสนอให้สอดคล้องกับทฤษฏี วัตถุประสงค์ และกลุ่มเป้าหมาย โดยรูปแบบการแสดงผลช่วยให้มองเห็นสภาพปัญหาและสามารถจัดลำดับความสำคัญของปัญหาในพื้นที่เป้าหมาย รวมถึงช่วยวางแผนการบริหารจัดการทรัพยกรน้ำในภาพรวมของพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถลดความขัดแย้งเรื่องการคัดเลือกพื้นที่โครงการของกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ได้ เนื่องจากมีการใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมมาวิเคราะห์และแสดงเป็นภาพแผนที่ที่เข้าใจง่ายได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้การจัดลำดับความสำคัญและกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่ต้องการการจัดสรรน้ำอย่างเร่งด่วน เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในอนาคต

“โจทย์คือเราจะสามารถนำเอาข้อมูลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปใช้ในงานวิจัยและพัฒนาอะไรได้บ้าง ถึงแม้ว่าเราจะมีข้อมูลแล้ว แต่เราก็ยังไม่สามารถเอาข้อมูลไปบูรณาการกับการบริหารจัดการน้ำได้อย่างเป็นรูปธรรม การที่ได้มาร่วมอบรมในครั้งนี้ทำให้ดิฉันได้เรียนรู้จากของอาจารย์ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เข้าร่วมอบรมหลาย ๆ ท่าน และมองเห็นว่าเราจะสามารถนำข้อมูลตรงนี้ไปใช้ในการบริหารจัดการน้ำได้อย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร”
คุณวรณัน โนราช วิศวกรโยธาปฏิบัติการจากส่วนวิจัยและพัฒนาด้านวิศวกรรม สำนักวิจัยและพัฒนา กรมชลประทาน

“ในฐานะพี่เลี้ยงของการอบรมครั้งนี้ นอกจากได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากครั้งที่แล้ว ยังสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการจัดลำดับความสำคัญในการวางแผนงานออกแบบของตนอีกด้วย”
คุณพงศ์พิชญ์ ยอดยิ่ง วิศวกรโยธาชำนาญการ กรมชลประทาน