โครงการ EMPOWER ระยะที่ 1 ได้สิ้นสุดลงด้วยการจัดหลักสูตรสุดท้าย “การขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำฯ”

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย ผ่านโครงการ EMPOWER ร่วมกับกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) และสถาบันวิจัยพลังงาน (ERI) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดหลักสูตรการขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศที่ยั่งยืน ซึ่งถือเป็นหลักสูตรสุดท้ายภายใต้โครงการ EMPOWER ระยะที่ 1
หลักสูตรนี้จัดขึ้นสำหรับบุคลากรของ สส. จำนวน 54 คน โดยใช้ระยะเวลาอบรมทั้งสิ้น 11 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน จนถึง 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากร สส. ในการดำเนินมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ โดยคำนึงถึงมิติด้านสังคม เศรษฐกิจ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบด้าน หลักสูตรนี้มีส่วนช่วยสนับสนุนภารกิจหลักของ สส. ในฐานะหน่วยงานขับเคลื่อนหลักในการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย
ตลอดระยะเวลา 3 เดือน ผู้เข้าอบรมได้พัฒนาการเรียนรู้ผ่าน 5 หมวดย่อย
หมวดย่อยที่ 1 ปูพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครอบคลุมทั้งการตั้งเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกทั้งในระดับประเทศและระดับโลก กรอบแนวคิดที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Taxonomy) และหลักการของการจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจก ทั้งในระดับประเทศ จังหวัด และองค์กร
หมวดย่อยที่ 2 นำเสนอความรู้เรื่องมาตรการและเทคโนโลยีในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน 5 ภาคส่วนหลัก ได้แก่ ภาคพลังงาน ภาคขนส่ง ภาคอุตสาหกรรม ภาคของเสีย และภาคการเกษตรและการใช้ที่ดิน พร้อมนำเสนอกรอบแนวคิดการจัดลำดับความสำคัญของมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกใช้มาตรการต่าง ๆ โดยพิจารณาจากปัจจัย เช่น ศักยภาพในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ต้นทุนในการดำเนินงาน และระดับการยอมรับของสังคม

หมวดย่อยที่ 3 สำรวจเครื่องมือแบบจำลอง (modelling tools) ซึ่งสามารถใช้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ คาดการณ์แนวโน้มการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประเมินศักยภาพการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของมาตรการต่างๆ หรือคาดการณ์ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เครื่องมือเหล่านี้สนับสนุนการกำหนดนโยบายที่มีหลักฐานมารองรับ (evidence-based policy) เป็นอย่างมาก
หมวดย่อยที่ 4 มุ่งเน้นแนวคิดของเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และการใช้ประโยชน์จากกลไกประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น นโยบาย เทคโนโลยี เศรษฐศาสตร์ และการเงิน เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่าน ผู้เข้าอบรมยังได้เรียนรู้ถึงบทบาทขององค์กรระหว่างประเทศ หน่วยงานภาครัฐระดับท้องถิ่น และภาคเอกชน ในการมีส่วนร่วมต่อการบรรลุเป้าหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับโลก หมวดย่อยนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตั้งเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สอดคล้องกัน และการดำเนินนโยบายที่ไปในทิศทางเดียวกันในทุกระดับและทุกภาคส่วน

ผู้เข้าอบรมเล่นบอร์ดเกม Carbon Detective
หมวดย่อยที่ 5 มุ่งเน้นกลยุทธ์การสื่อสาร ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้วิธีการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายกลุ่มที่มีหน้าที่ ความเข้าใจ และทัศนคติต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและนโยบายที่เกี่ยวข้องแตกต่างกัน หมวดย่อยนี้ชี้ให้เห็นความสำคัญของส่งสารอย่างชัดเจน และการวางแผนการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
หลักสูตรได้สรุปเส้นทางการเรียนรู้ของผู้เข้าอบรมด้วยกิจกรรมนำเสนอโครงการนำร่องขนาดเล็ก (Mini-Flagship Project) ซึ่งผู้เข้าอบรมได้นำเสนอแนวคิดการศึกษาใหม่ หรือข้อเสนอเชิงนโยบายใหม่สำหรับประเทศไทย เช่น 1) แนวทางผลักดันระบบประเมินการสะสมคาร์บอน (Carbon Pool) ของพื้นที่สีเขียวในเมืองของประเทศไทย 2) แนวทางการท่องเที่ยวแบบเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Economy) พื้นที่เกาะล้าน จ.ชลบุรี 3) การวิเคราะห์ความก้าวหน้าของนโยบายการเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นธรรม (Just Transition) ในภาคพลังงานของประเทศไทย

ผู้เข้าอบรมได้นำเสนอโครงการนำร่องขนาดเล็กที่ได้พัฒนาขึ้นตลอดระยะเวลาสามเดือน ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่การเลือกหัวข้อที่เหมาะสม ทีมที่ชนะได้รับรางวัลเป็นบอร์ดเกม Power Jungle
หลักสูตรยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ประกอบด้วย การเสวนากับผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 20 ท่าน เวิร์กช็อปแบบกลุ่ม และบอร์ดเกม นอกจากนี้ยังมีการศึกษาดูงานที่ฟาร์มคูโบต้า จังหวัดชลบุรี ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าอบรมได้สัมผัสประสบการณ์จริงกับเทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะ เช่น การประยุกต์ใช้เครือข่ายอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันด้วยอินเตอร์เน็ต (Internet of Things: IoT) ในฟาร์ม แอปพลิเคชันเพื่อการเกษตรแบบแม่นยำ โดรน และรถดำนาไร้คนขับ
ในภาพรวม หลักสูตรนี้ได้มอบโอกาสให้ผู้เข้าอบรมในการเรียนรู้ การแลกเปลี่ยนความคิด และการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนการทดสอบข้อเสนอเชิงนโยบายและการศึกษาใหม่ ๆ โครงการนำร่องขนาดเล็กที่จัดทำขึ้นในหลักสูตรนี้ยังสามารถพัฒนาต่อยอดและผลักดันให้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายหรือการดำเนินงานระดับประเทศ ภายใต้ภารกิจของ สส.

ผู้เข้าอบรมมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในกิจกรรมการอภิปรายกลุ่มและเวิร์กช็อป ตลอดการอบรมออนไซต์ทั้ง 10 ครั้ง
การสิ้นสุดของหลักสูตรนี้ถือเป็นการปิดฉากโครงการ EMPOWER ระยะที่ 1 ซึ่งมุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากร สส. สำหรับโครงการ EMPOWER ระยะที่ 2 จะเริ่มต้นในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมทั้งบุคลากร สส. และ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) ทั่วประเทศไทย โครงการ EMPOWER ได้รับการสนับสนุนจากแผนงานปกป้องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับสากล (International Climate Initiative: IKI) ภายใต้รัฐบาลเยอรมนี

การฝึกอบรมมีทีม ERI จุฬาฯ เป็นคณะวิทยากรหลัก นอกจากนี้มีคณะกรรมการ ประกอบด้วย ดร.อมรวรรณ เรศานนท์, คุณธวัชชัย แสงคำสุข, คุณนารีรัตน์ พันธุ์มณี, ดร.วีรินทร์ หวังจิรนิรันดร์ และ ดร.จักรพงศ์ พงศ์ธไนศวรรย์ ซึ่งได้ให้ข้อคิดเห็นต่อโครงการนำร่องขนาดเล็ก