9 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 – GIZ ประจำประเทศไทย โดยโครงการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายชีวภาพทางทะเลและชายฝั่ง (CCMB) ร่วมสนับสนุนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) จัดนิทรรศการเปิดประสบการณ์ผู้ร่วมงานสู่ความหลากหลายทางชีวภาพแบบอินเตอร์แอคทีฟ (Interactive Biodiversity Exhibition) เนื่องในวันสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ ประจำปี พ.ศ. 2567 ณ ห้องบีซีซี ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว กรุงเทพฯ

ความหลากหลายทางชีวภาพมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ สิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ และระบบนิเวศ ทั้งในด้านความมั่นคงทางอาหาร การเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์ต่าง ๆ ช่วยควบคุมคุณภาพน้ำและอากาศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการบรรเทาความรุนแรงของภัยธรรมชาติ ดังนั้น การดำเนินงานเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพจึงจำเป็นต้องมีความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทุกประเทศ เพื่อส่งต่อคุณภาพชีวิตและคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับรุ่นลูกหลานต่อไป

องค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 22 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ และส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน โดยหัวข้อการจัดงานประจำปี พ.ศ. 2567 คือ “BE PART OF THE PLAN” หรือ “ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแผน: สร้างความเป็นหุ้นส่วน สร้างความร่วมมือ มุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน” เนื่องจากประชาคมโลกได้มีข้อตกลงร่วมกันที่จะบรรลุเป้าหมายตามกรอบงานคุนหมิง-มอนทรีออลว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของโลก (Kunming-Montreal Global Biodiversity Framework: KM-GBF)

พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเปิดและกล่าวปาฐกถาพิเศษ พร้อมด้วยคุณประเสริฐ ศิรินภาพร เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงานการจัดกิจกรรม

ภายในงานมีการจัดนิทรรศการความหลากหลายทางชีวภาพแบบอินเตอร์แอคทีฟที่ได้นำผู้ร่วมงานกว่า 400 คน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทยจำนวน 12 เป้าหมาย เพื่อตอบโจทย์ KM-GBF และนำโลกสู่ “การอยู่ร่วมกันอย่างสอดคล้องและเป็นธรรมชาติ” ภายในปี พ.ศ. 2593

CCMB ได้ร่วมจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญและการดำเนินงานเพิ่มพื้นที่อนุรักษ์นอกเขตพื้นที่คุ้มครอง (Other Effective Conservation Measures: OECMs) ในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่ง เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพภายในปี พ.ศ. 2573 (ค.ศ. 2030) ประกอบกับการฟื้นฟูธรรมชาติที่เสื่อมโทรมด้วยการใช้ระบบนิเวศเป็นพื้นฐาน (Nature-based Solutions: NbS) ในการบริหารจัดการ ปกป้อง และฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างยั่งยืน โดยวิทยาศาสตร์ภาคพลเมือง (Citizen Science) มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการร่วมดำเนินงานวิจัยเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการดำเนินงานของ CCMB จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถตอบโจทย์ KM-GBF ได้ดียิ่งขึ้นผ่านการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ความหลากหลายชีวภาพทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน ในบริบทของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ไทยต้องเผชิญ

ข้อมูลเพิ่มเติมวันสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ: www.cbd.int/biodiversity-day

ติดตามข้อมูลโครงการเพิ่มเติม : www.thai-german-cooperation.info/th/climate-coastal-and-marine-biodiversity-ccmb