กรุงเทพฯ, 1 กันยายน 2565 – เราจะสามารถหยุดการทิ้งขยะลงสู่ท้องทะเลได้อย่างไร?: ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่มีขยะเล็ดลอดลงสู่ท้องทะเลมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งขยะทะเลส่วนมากมาจากทั้งกิจกรรมบนบกและในทะเล อาทิ
การสัญจรทางน้ำที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งมีส่วนทำให้ปริมาณขยะในทะเลสูงขึ้น เช่น เกิดการลักลอบทิ้งขยะลงทะเลอย่างผิดกฎหมาย ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ท่าเรือกรุงเทพ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ร่วมกับ “โครงการส่งเสริมการใช้เศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อจัดการปัญหาขยะทะเล” ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสหภาพยุโรป (EU) และรัฐบาลเยอรมัน ดำเนินงานโดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) และ Expertise France (EF) ได้ร่วมกันดำเนินโครงการนำร่องเพื่อต่อต้านการลักลอบทิ้งขยะลงทะเลจากเรือแบบผิดกฎหมายด้วยการพัฒนาระบบการจัดการของเสียจากเรือของท่าเรือกรุงเทพ กิจกรรมโครงการนำร่องในท่าเรือกรุงเทพนี้ยังได้รับความร่วมมือจากทั้งศูนย์บริการวิชาการ และสถาบันวิจัยพลังงานแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย และบริษัท เฟิร์ส บิส โซลูชั่น จำกัด
ด้วยความร่วมมือจากองค์กรต่างๆ ในการศึกษาข้อกำหนดการจัดการของเสีย รวมถึงการบริการการจัดการของเสียของท่าเรือกรุงเทพ การออกแบบ และดำเนินระบบการจัดส่งแบบแจ้งข้อมูลของเสียจากเรือ (Ship Waste Notification Management System: WNMS) ซึ่งเป็นการกำหนดให้เรือต้องแจ้งปริมาณของเสียที่จะถ่ายเท ณ ท่าเรือฯ โดยต้องแจ้งทางท่าเรือฯก่อนเรือเทียบท่า ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดการของเสีย และการตรวจสอบขั้นตอนต่างๆในการจัดการของเสียจากเรืออีกด้วย นอกจากนั้นยังเป็นการพัฒนาปรับปรุงระบบการรวบรวมข้อมูลของเสียภายใต้การกำกับดูแลของทางท่าเรือกรุงเทพ โดยในวันที่ 1 กันยายน องค์กรภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวได้นำเสนอระบบการจัดการของเสียจากเรือที่ได้รับการพัฒนา และผลการดำเนินงานให้กับเจ้าหน้าที่ท่าเรือฯ และผู้ที่สนใจได้ทราบในระหว่างพิธีปิดโครงการ ณ ห้องศาลาไทยบอลรูม ชั้น 5 โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค และท่าเรือกรุงเทพ โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 60 คน ซึ่งแสดงความสนใจในแนวทางแก้ไขปัญหาและจัดการของเสียจากเรือให้ดีขึ้น
ในพิธีเปิด มร. เปาโล ซินกาเล ผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยได้กล่าวสรุปไว้ว่า “แทนที่เรือ และเรือประมงจะทิ้งของเสียลงสู่ทะเลอย่างผิดกฎหมายซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล การที่ให้เรือเหล่านั้นสามารถนำของเสียและวัสดุตกค้างทั้งหมดไปทิ้งยังจุดรองรับของเสีย ณ ท่าเรือกรุงเทพจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง การปรับปรุงข้อกำหนดและบริการการจัดการของเสียในท่าเรือ ตลอดจนข้อมูลและการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และเจ้าของเรือจะสามารถสร้างจุดเปลี่ยนในการลดขยะในทะเลได้ โดยในสหภาพยุโรปเราใช้ข้อกำหนดทางกฎหมายหลายฉบับที่ทำให้เกิดผลลัพธ์อย่างมีนัยสำคัญ แม้ปริมาณของเสียที่ถูกถ่ายเทที่ท่าเรือจะเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณการทิ้งขยะอย่างผิดกฎหมายลงสู่ทะเลลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผมดีใจที่เรามีโอกาสร่วมงานกับพันธมิตรที่มากด้วยประสบการณ์และมีความตั้งใจ รวมถึงท่าเรือกรุงเทพเป็นท่าเรือที่สำคัญยิ่งในประเทศไทย เราสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์เหล่านี้ พร้อมทั้งพัฒนาการทำงานในรูปแบบอนาล็อกและเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆไปด้วยกัน”
ในระยะเวลา 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา องค์กรภายใต้ความร่วมมือได้ช่วยกันพัฒนาระบบการจัดส่งแบบแจ้งข้อมูลของเสียจากเรือ (WNMS) ซึ่งจะบูรณาการร่วมกับแพลตฟอร์ม e-Port ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งพร้อมใช้งานแล้วหลังจากพนักงานและตัวแทนเรือได้รับการอบรม โดยสามารถแจ้งประเภทและปริมาณของเสียที่ต้องการกำจัดก่อนการเทียบท่าผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์มือถือ จากนั้นเรือจะได้รับใบรับรองการจัดเก็บของเสียจากเรือเพื่อเป็นหลักฐาน กระบวนการนี้จะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายสำหรับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนั้น คู่มือการจัดการของเสียจากเรือซึ่งอธิบายถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดการและการรวบรวมของเสียพร้อมทั้งปรับปรุง
ให้เป็นฉบับปัจจุบันเพื่อสร้างความกระจ่างในกระบวนการและขอบข่ายความรับผิดชอบให้มีความชัดเจน โดยคู่มือนี้เป็นคู่มือสำหรับลูกเรือของเรือที่จะเทียบท่า ณ ท่าเรือกรุงเทพ รวมถึงตัวแทนเรือ บริษัทรับจัดการของเสีย ผู้ให้บริการด้านอื่นๆซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการของเสียที่ท่าเรือกรุงเทพ ทั้งนี้ การกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการของเสียจากเรือที่เหมาะสมบนหลักการของ Cost Recovery System (CRS) จะเป็นการรับรองว่าค่าบริการกำจัดของเสียที่เรือได้ชำระไปนั้นมีการดำเนินงานไปอย่างโปร่งใส
นายแถมสิน ศรีบางพลีน้อย รองผู้อํานวยการท่าเรือกรุงเทพ ได้กล่าวต้อนรับโดยยกประเด็นด้านประโยชน์ของการใช้ระบบออนไลน์ว่า “การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยพัฒนาระบบการจัดส่งแบบแจ้งข้อมูลของเสียจากเรือผ่านอินเตอร์เน็ต เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการให้ได้รับการบริการอย่างสะดวก รวดเร็ว ช่วยจัดเก็บ และรวบรวมข้อมูลปริมาณของเสียจากเรือในแต่ละปี เพื่อใช้ในการวางแผนจัดการของเสียของท่าเรือกรุงเทพ ทั้งช่วยลดการลักลอบทิ้งของเสียจากเรือลงสู่แหล่งน้ำในอาณาบริเวณท่าเรือกรุงเทพ การท่าเรือแห่งประเทศไทย รวมถึงตอบสนองนโยบายลดการใช้กระดาษภายในการท่าเรือฯ อีกด้วย “
หลังจากพิธีจบโครงการ ผู้ร่วมงานทุกท่านยังได้มีโอกาสเยี่ยมชมบริเวณโดยรอบของท่าเรือกรุงเทพเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบการจัดการของเสียจากเรือของท่าเรือกรุงเทพ และเรียนรู้เพิ่มเติมภายในท่าเรือฯ
“เพื่อลดการทิ้งของเสียจากเรืออย่างผิดกฎหมายลงทะเล จำเป็นต้องพัฒนาระบบแจ้งเตือนการจัดการของเสียแบบบังคับที่มีประสิทธิภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และจัดฝึกอบรมและถ่ายทอดประสบการณ์จากโครงการนำร่องให้กับบริษัทเรือขนส่งและท่าเรืออื่นๆที่สำคัญของไทย” ดร. จักรพงศ์ พงศ์ธไนศวรรย์ สถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเสริม